วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

Prison Playbook / Wise Prison Life



ตั้งแต่ Ep แรกที่เริ่มดู มีความรู้สึกเสียดายซีรีย์เรื่องนี้ ว่าทำไมเราถึงมาดูช้าเกินไป อาจจะเป็นเพราะเนื้อหาเป็นซีรีย์เกี่ยวกับชาวคุก ที่กลัวว่าดูแล้วอาจจะดราม่าได้ เลยดองเค็มไว้เกือบปี และเชื่อว่ามีหลายคนที่เวลาเลือกดูซีรีย์จะคิดกันแบบนี้ ทั้งที่เรตติ้งและกระแสในตอนนั้นก็การันตีได้ส่วนหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด เรื่องนี้เหมือนติดอันดับ top 10 ซีรีย์ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล ที่ออกฉายทางช่องเคเบิ้ล ด้วยตัวเลข 11.195% 
การวัดเรตติ้ง ของช่องเคเบิ้ลหากเปรียบเทียบกับช่องปกติ คือ เอาตัวเลขคูณสาม/สี่เท่า เช่นหากได้ตัวเลขที่ 10% เวลาเอามาเปรียบเทียบกับช่องปกติ ตัวเลขก็จะอยู่ประมาณ 30-40% ถือว่าเป็นเรตติ้งที่สูงมาก กับการแข่งขันในปัจจุบัน เพราะมีทางเลือกให้กับคนดูมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องแดจังกึม เรตติ้งประมาณ 50 % อัพ แต่นั้นคือเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว


เป็นซีรีย์ชาวคุก ทีให้ความรู้สึก feel good”  มีทั้งหมด 16 Ep. ตอนล่ะ 1.30-1.40 น. ประมาณ 26 ชม. ที่ดู เต็มอิ่มกันทีเดียว ชีวิตวนเวียนอยู่ในคุกเกือบอาทิตย์กว่าจะดูจบ เป็นซีรีย์อีกเรื่องที่ไม่อยากให้จบ อยากดูต่อไปเรื่อยๆ เล่าถึง คิมแจฮยอก (รับบทโดย Park Hae Soo ) นักเบสบอลชื่อดัง ที่โดนจำคุกเนื่องจาก ไปทำร้ายคนที่จะเข้ามาขมขื่นน้องสาวจนถึงแก่ความตาย ภายนอกเป็นคนที่ซื่อ ออกไปทางโง่ๆ หน่อย ทำอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง นอกจากเรื่องเบสบอล  เมื่อเข้ามาอยู่ในคุก ได้รู้จักกับคนมากมายหลากหลายประเภท ทั้งนักโทษ เพื่อนร่วมห้อง ผู้คุม นายแพทย์เรือนจำ หรือแม้แต่พัศดี ซึ่งแต่ล่ะคนมีเรื่องราวแตกต่างกันไป ที่สำคัญสถานที่แห่งนี้ ทำให้เห็นอีกด้านของคิมแจฮยอก ที่คนอื่นไม่เคยรู้


ผู้คุมลีจุนโฮ ( รับบทโดย Jung Kyung Ho) เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กของ คิมแจฮยอก เมื่อรู้ว่าเพื่อนต้องติดคุก ก็ขอย้ายเรือนจำเพื่อเข้ามาดูแลเพื่อน ทั้งที่ไม่ได้เจอกันถึง 7 ปี  เป็นคนฉลาด มีเหตุผล คอยช่วยเหลือเพื่อนในทุกๆ เรื่อง แต่ไม่ยอมบอกคนอื่นว่าเป็นเพื่อนกัน เพราะกลัวคนอื่นมองเพื่อนว่าใช้เส้นสายในการอยู่ในคุก  เข้าใจว่าคนที่เข้ามาอยู่ในคุกเป็นคนไม่ดี พยายามให้เพื่อนเลี่ยงจากคนพวกนี้ และไม่ให้ไปสุงสิงหรือสนิทด้วย แต่สุดท้ายมุมมองก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเริ่มใช้ใจมองคนอื่น โดยที่ไม่มีอคติ


นักโทษเพื่อนร่วมห้อง ที่แต่ล่ะคนมีที่มาในการรับโทษต่างกัน  แต่เมื่อมาอยู่รวมกันในห้องขังเล็กๆ ความเห็นอกเห็นใจ มิตรภาพ ก็ค่อยๆ เกิดขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ประทับใจตรงคำพูดที่ว่า เราต่างหากคือครอบครัวเดียวกัน อย่างแท้จริง เพราะเราได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา  ชอบมากที่สุดในเรื่อง คือนายเอ๋อ นักโทษติดยา ที่เมายาอยู่ตลอดเวลา เป็นตัวที่คอยสร้างสีสรรในเรื่องให้ได้หัวเราะได้ตลอดเวลา


ซีรีย์ดำเนินไปเรื่อยๆ ด้วยมีความยาวถึง 1.40 น ต่อ ตอน แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้คนดูอึดอัด เพราะตัวละครมีเยอะเหลือเกิน แถมแอบปล่อยมุขอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากคิดว่าซีรีย์เรื่องนี้จะทำให้เครียด ให้ข้ามผ่านจุดนี้ไปได้เลย พิเศษตรงเรื่องนี้ไม่ค่อยมีนักแสดงผู้หญิงเข้ามากวนใจ มีแต่ผู้ชายล้วนๆ แถมด้วย Jung Hae In ที่รับบท เป็นกัปตันยู เข้ามาเป็นนักโทษน้องใหม่ใน Ep. 5 แถมเรื่องนี้ได้รับรางวัล  Popularity Actor Award  : Baeksang Arts Awards ในปีนี้ด้วย ปรบมือ+++++


ซีรีย์พยายามนำเสนอให้เห็นว่า คนเราสามารถทำผิดกันได้ แต่ยอมรับที่จะพยายามแก้ไข หรือทำให้มันดีขึ้นหรือเปล่า นั้นต่างหากล่ะ ที่สำคัญ และอย่ามองคนที่ภายนอก ควรมองเข้าไปให้ลึกถึงจิตใจ  ทุกคนล้วนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองเสมอ แนะนำให้รีบหามาดูกันค่ะ แล้วคุณอาจจะไม่อยากออกจากคุกเลยก็ได้ พยายามลุ้นให้มีต่อภาค 2

Immage Source : www.koreandrama.org and www.pantip.com




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น