วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Life On Mars



เป็นซีรีย์แนวสืบสวน สอบสอน ที่ภาพออกมาต่างจากที่เห็นในซีรีย์ทั่วไป เหมือนถ่ายทำด้วยฟิลม์ ได้อารมณ์เหมือนเรากำลังนั่งชมภาพยนตร์อยู่ในโรง  เนื้อเรื่องเล่าถึงนักสืบ ฮันแทจู ที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บและได้ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หรือในยุค 80 นั้นเอง เมื่อนักสืบทางนิติวิทยาศาสตร์ ต้องมาเจอนักสืบภูธร อย่าง คังดงซู ความฮาจึงได้บังเกิดขึ้น


นักสืบฮันเทจู (Jung Kyung Ho) ตำรวจนักสืบที่มีความสามารถทางนิติวิทยาศาสตร์  ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ชอบทำงานคนเดียว ได้ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ได้ร่วมงานกับตำรวจทีมใหม่ ที่มีวิธีการสืบสวน สอบสวนต่างจากในปัจจุบัน  พยายามหาทางกลับมาในโลกปัจจุบัน เพราะคิดว่าที่นี่ไม่เหมาะกับตัวเอง 


ผู้กองคังดงซู (Park Sung Woong) ตำรวจที่มีความสามารถในการใช้กำลังเป็นหลัก รักลูกน้อง เป็นหัวหน้าของฮันแทจู ในยุค 80 ไม่ชอบขี้หน้าของฮันแทจู ตั้งแต่แรก มีโอกาสเป็นต้องได้กลั่นแกล้ง แต่เมื่อได้ใช้เวลาทำงาน อยู่ด้วยกัน ความรู้สึกที่มีต่อฮันแทจูได้เปลี่ยนไป


ยุนนายอง (Go Ah Sung) ตำรวจหญิงในทีมเพียงหนึ่งเดียว ที่มีความสามารถรอบตัว แต่ต้องทำงานจิปาถะ นอกเหนือจากงานของตำรวจชาย ทั้งชงกาแฟ ซักถุงเท้า ทำทุกอย่างยกเว้นงานของตำรวจ สาเหตุเพราะเป็นผู้หญิงในยุคนั้น มีเพียงฮันแทจู ที่มองเห็นความสามารถและยอมรับ หลงรักฮันแทจู เพราะเหตุผลข้างต้น

แนะนำให้ดูอีกเรื่องหนึ่งคะ เพราะนอกจากความสนุกแล้ว รับรองว่าไม่สามารถเดาทางตอนจบของเรื่องได้เลย เป็นซีรีย์ที่เหมือนไม่มีอะไร แต่ให้อะไรมากกว่าที่คิดไว้ ไม่ใช่แค่ภาพเท่านั้นที่ให้อารมณ์เหมือนการดูภาพยนตร์ แต่เนื้อเรื่องก็หักมุมเหมือนที่เราได้จากภาพยนตร์เหมือนกัน ประเภทที่ดูจบแล้ว ในขณะที่เดินออกมาจากนอกโรง ยังคงงงและมีการตั้งคำถามขึ้นมา 5555 เป็นซีรีย์ม้ามืดอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง



Image source : www.koreandrama.org


วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Miss Hummurabi



เป็นซีรีย์แนวกฎหมาย ที่ปกติส่วนใหญ่มักจะเสนอในแง่มุมการทำงานของทนายความ อัยการ นักสืบ แต่เรื่องนี้กลับเลือกนำเสนอการทำงานของผู้พิพากษา บุคลากรในศาล ว่าในการพิจารณาแต่ละคดีมีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง 


ผู้พิพากษาฮัน เซซอง (Sung Dong Il) รับบท ผู้พิพากษาอาวุโส แผนกคดีเพ่ง 44 เป็นผู้พิพากษาที่แก่สุดในรุ่น เพราะใช้เวลาอยู่หลายปีถึงสอบเนติผ่าน ตรงไปตรงมา ทั้งในการใช้ชีวิตและการทำงาน เป็นเหมือนแกะดำในวงการ ที่ไม่มีเส้นมีสายในสังคมผู้พิพากษา ไม่เคยคิดอยากจะเลื่อนขั้น ถ้าการเลื่อนขั้นนั้นได้มาเพราะการประจบประแจง แค่อยากทำหน้าที่ในการเป็นผู้พิพากษาให้ดีที่สุด 


ผู้พิพากษาพัคชา โอรึม (Go Ah Ra) รับบท ผู้พิพากษาฝั่งซ้าย ในแผนกคดีเพ่ง 44 เป็นผู้พิพากษารุ่นใหม่ไฟแรง ไม่เกรงกลัวอิทธิพลหรืออำนาจใดๆ จนถูกมองว่าไม่รู้จักระบบอาวุโส เป็นที่เพ่งเล็งของผู้พิพากษาอาวุโสทั้งหลาย และในการพิจารณาคดีบางครั้งให้ความสนใจหรือเอนเอียงไปทางผู้ที่ตกเป็นเหยื่อบ่อยๆ จนลืมไปว่าตัวเองเป็นผู้พิพากษาที่ต้องตัดสินใจจากหลักฐานเท่านั้น เห็นสิ่งไม่ถูกต้องเป็นไม่ได้ เป็นต้องยื่นมือเข้าไปช่วย จนได้รับฉายานามว่า มิส ฮัมมูราบี


ผู้พิพากษาฮัม บารึน (L / Kim Myeong Su) รับบท ผู้พิพากษาฝั่งขวา ในแผนกคดีเพ่ง 44 (ในการพิจารณาคดีแต่ละครั้ง จะมีผู้พิพากษา 3 คน คือ ผู้พิพากษาอาวุโส ผู้พิพากษาฝั่งซ้ายและขวา) เป็นรุ่นพี่ของผู้พิพากษาพัค เป็นคนที่ไม่สนใจคนรอบข้าง ทำงานเพื่อเงิน เลือกเป็นผู้พิพากษาเพราะความมั่นคง ไม่มีใครสามารถมาไล่ออกจากงานได้ ถ้าไม่โดนฟ้องร้อง ความคิดทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อได้ร่วมงานกับผู้พิพากษาพัค


ถึงแม้เนื้อเรื่องจะดำเนินไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ ของช่อง JTBC แต่ที่เกาหลี เรื่องนี้กลับเป็นที่นิยมและพูดถึงอย่างกว้างขวาง นอกจากจะได้ความรู้ทางกฎหมายแล้ว  ยังได้เห็นมิตรภาพภายในองค์กร ที่ทุกคนค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน  และบทของผู้พิพากษาฮัม บารึน ที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทำให้เรื่องนี้ได้สอดแทรกคำคม ต่างๆ ไว้มากมายในทุกๆ Ep.

"ถ้าเราหยุดฝนที่โปรยปรายไม่ได้ ก็ต้องเปียกไปด้วยกัน"
คำคมจากตอนที่ผู้พิพากษาจองโบวัง พูดกับ ผู้พิพากษาฮัมบารึน ในตอนที่ผู้พิพากษาพัคชา โอรึม โดนโจมตีทั้งจากองค์กรและกระแสภายนอก ว่าจะยืนอยู่เคียงข้างกัน

ที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ซีรีย์เรื่องนี้ พยายามจะสื่อ คือ ผู้พิพากษาก็คือคนธรรมดาทั่วไป ที่มีความรู้สึก อารมณ์หวั่นไหว กระหาย อำนาจ แต่เมื่อสวมชุดครุยผู้พิพากษา ก็ต้องโยนทุกอย่างทิ้งไปให้หมด  และปัญหาของคนทำงานสามารถเกิดขึ้นได้ทุกองค์กร ไม่เว้นแต่ศาล สถานที่ขึ้นชื่อว่า มีความยุติธรรมมากที่สุด

**ประมวลกฏหมายฮัมมูราบี เป็นบทบัญญัติที่รวบรวมกฎหมายต่างๆ และพระราชกฏษฏีกาของพระเจ้าฮัมมูราบี ราชาแห่งบาบิโลเนีย เป็นประมวลกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายอาญา โดยยึดหลักปัจจุบันที่เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟันที่หมายถึง ทำผิดอย่างใดได้โทษอย่างนั้น ซึ่งแม้ว่าบทลงโทษตามกฏหมายฮัมมูราบี จะดูว่าโหดเหี้ยมตามความคิดของคนสมัยใหม่ แต่การทำกฎหมายให้เป็นลายลักษณ์อักษรและพยายามใช้บังคับอย่างเป็นระบบกับทุกคน และการ ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าผิด นับเป็นหลักการสำคัญที่นับเป็นวิวัฒนาการทางอารยธรรมของมนุษย์**

Image Source : www.koreandrama.org




วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Come And Hug Me


 

ซีรีย์เรื่องนี้เป็นที่ฮืออา ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดง ซึ่งทาง MBC ได้ทาบทามซูจี และ นัมจูฮยอก มารับบทนักแสดงนำ แต่ก็โดนทั้งสองคนปฏิเสธบทไป สุดท้ายบทกับไปตกที่นักแสดงหน้าใหม่ ที่มารับบทพระนางเป็นเรื่องแรก จางกียง และ จินกีจู  ซึ่งแลดูเหมือนเป็นการหักหน้านักแสดงดังทั้งสองคนในตอนต้น


จางกียง รับบท แซโดจิน (ยูนนามุน) เป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต ยุนฮีแจ ที่ฆ่าพ่อแม่ของฮันแจฮีตาย เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เป็นตำรวจ เพื่อต้องการที่จะช่วยเหลือผู้อื่น คิดว่าเป็นการไถ่บาปที่พ่อได้ก่อขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองแตกต่างจากพ่อ ต้องแบกรับกับการที่โดนสังคมตราหน้าว่าเป็นลูกชายของฆาตกรตั้งแต่เด็ก เล่นดีคะ กับการรับบทนำเรื่องแรกของจางกียง ก่อนหน้าแลดูเหมือนจะเป็นนายแบบมาก่อน สูงยาว เข่าดี หน้าตามองมุมซ้ายคล้ายฮยอนบิน ตอนเข้าวงการใหม่ๆ มองมุมขวาคล้ายกับจูวอน ที่ตอนนี้อยู่ในกรม ฮีร้องไห้ตั้งแต่เป็นเด็กยันโต นับครั้งได้ที่เห็นรอยยึ้มจากซีรีย์เรื่องนี้  รวมถึงนักแสดงตอนเด็กที่รับบทโดย นัมนารึม น้องเล่นดีมาก อนาคตน่าจะได้เป็นพระเอกแถวหน้าอีกคน


จินกีจู รับบท ฮันแจฮี (กิลนักวอน) มีอาชีพเป็นดารา นักแสดง เหมือนกับแม่ของเธอ ที่เป็นหนึ่งในจำนวนเหยื่อที่โดนยุนฮีแจพ่อของยุนนามูฆ่าตาย จากเหตุการณ์ในอดีตส่งผลให้ปัจจุบันยังมีภาวะหวาดกลัว หากเห็นหรือได้ยินอะไรที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมพ่อแม่ของตัวเอง  เคยได้ดูซีรีย์ที่นางแสดงมาก่อนหน้านี้ คือ เรื่อง Misty เรื่องนั้นนางเล่นได้หน้าตบมาก แต่พอมาแสดงเรื่องนี้กับบทเด็กสาวซื่อๆ มีปมในใจ รู้สึกว่าไม่ค่อยเข้ากับนางสักเท่าไหร่ หรือเป็นเพราะว่าเรื่องนี้บทเทความเด่นไปที่พระเอกมากกว่า บทนางเลยด้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด เป็นคนไม่สวย แต่หน้าตาออกแนวๆ หมวยอินเตอร์


เหตุการณ์ผ่านไป 9 ปี ทั้งฮันแจฮีและแชโดจิน ได้กลับมาพบกันใหม่ พร้อมๆ กับเปลี่ยนชื่อไหม่ ใช้ชีวิตใหม่ เพื่อต้องการลืม  เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แม้ว่าทั้งสองคนจะคิดถึงกันมากแค่ไหน  แต่ก็ทำได้เพียงห่างกันไปอีกรอบ เพราะลูกชายฆาตกรกับลูกสาวเหยื่อเป็นเรื่องที่ทั้งสังคมและตัวของพวกเข้าทั้งสองทำใจยอมรับได้ยาก  แต่แล้วหลังจากนั้น 3 ปี เมื่อฮันแจฮี กลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง และ แชโดจิน ได้กลายเป็นนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ทั้งสองคนก็กลับมาเจอกันใหม่ แต่การกลับมาเจอกันครั้งนี้ ทั้งสองเริ่มเรียนรู้ว่าจะดูแลเยียวยาบาดแผลทางจิตใจของกันและกันได้อย่างไร และพร้อมจับมือกันเพื่อเผชิญหน้ากับการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป

ดูมาสามวันสองคืน ร้องไห้ตั้งแต่ EP แรกยัน EP สุดท้าย หน้าพระเอกมันเศร้ามาก พร้อมบทเนื้อเรื่องที่ขยี้ใจสุดๆ ซีรีย์ดำเนินเรื่องแบบเล่าสลับไปสลับมา ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนดูสับสนแต่อย่างไร ดูแล้วทำให้รู้สึกได้ถึงความรัก ความผูกพันระหว่างกิลนักวอนและยุนนามู ว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์ และไม่มีสิ่งไหนมาทำลายได้




Image source :  www.koreandrama.org







วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Sketch



ความคิดแว๊บแรกที่หยิบซีรีย์เรื่องนี้มาดู เป็นเพราะเห็นหน้าเรนอยู๋ในโปสเตอร์ ถือว่าไม่ได้เป็นแฟนคลับเรนโดยตรง (ไม่เคยดูเรื่อง Full House ตอนนั้นในไทยดังแค่ไหนใครๆก็รู้)  แค่เคยได้ดูผลงานแบบจริงจังเมื่อหลายปีก่อน กับเรื่อง  Please Come Back,Mister  ซีรีย์สนุกดี และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นเรนรับเล่นซีรีย์อีกเลย จนมาถึงเรื่องนี้


เป็นซีรีย์แนวสืบสวน สอบสวน จากค่าย JTBC ช่องเคเบิ้ลของเกาหลี ได้เรนและลีดองกันมาประกบคู่กัน ไม่ใช่บทพระนางนะคะ แต่เป็นบทพระเอกกับพระรอง คือจริงๆ ถ้าบทของลีดองกันโยนให้นักแสดงหญิงเล่น ตอนจบน่าจะได้ลงเอยกับเรน 555เนื้อเรื่องจะเรื่อยๆ ไม่หวือหวา เหมือนกับเรตติ้งที่ได้มา เหมาะสำหรับคนดูที่เป็นคอซีรีย์แนวนี้จริงๆ


เป็นเรื่องของทีมสอบสวนพิเศษ ที่ป้องกันการเกิดอาชญากรรมล่วงหน้า โดยหนึ่งในทีมนี้ คือ ยุนชีฮยอน(อีซันบิน) ที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นอนาคตล่วงหน้าของคนตาย โดยการสเก็ตออกมาเป็นภาพ แล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อยับยั้งเหตุที่จะเกิด โดยภาพนั้นจะเกิดขึ้นภายใน 3 วัน หากเกินเวลานั้นไปแล้ว เหตุการณ์จากภาพก็จะไม่เกิด โดยมีนายตำรวจ คังดงซู (เรน) ได้เข้ามาร่วมทีม เพราะต้องการตามสืบหาความจริง และตามล่าตัวคนร้ายที่ฆ่าอัยการมินจีซู คนรักของเขาตาย  


ปัญหาของการทำงานที่เจอประจำของทีมสอบสวนคือ จะพบว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นำหน้าพวกเขาและคอยขัดขวางการทำงานตลอดเวลา เหมือนกับว่าคนกลุ่มนั้นสามารถล่วงรู้อนาคตได้เหมือนกับ ยุนชีฮยอน ที่สำคัญคือ คิมโดจิน (ลีดองกัน) คนร้ายที่ฆ่าอัยการมินจีซู อยู่ในกลุ่มดังกล่าว แต่ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้น ดูเหมือนว่าการทำงานของทั้ง 2 กลุ่มนั้นจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือการตามล่าหาตัวผู้อาวุโส ผู้มีอิทธิพลที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย

ความสนุกของเรื่องนี้ คือ คนร้ายแทบจะไม่มีบทบาทเลย หรืออาจจะพูดว่าคนร้ายแทบไม่มีตัวตน (แค่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่มีบทบาทในเรื่องสักเท่าไหร่) ซึ่งเนื้อเรื่องถ่ายทอดวิธีการทำงานของคน 2 กลุ่ม โดยมีเป้าหมายเดียวกัน

กลุ่มแรก ทีมสวนสวนพิเศษ มองเห็นอนาคต เพื่อยับยั้งเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น ใช้กฎหมายในการทำงาน
กลุ่มสอง คนนิรนาม มองเห็นอนาคต แต่ใช้อนาคตเป็นเครื่องมือ เพื่อให้การทำงานบรรลุผล ใช้ศาลเตี้ยแทนกฎหมาย เมื่อเห็นว่ากฎหมายไม่สามารถลงโทษคนผิดได้

ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นว่ากลุ่มที่สอง ที่ต้องการจะจับคนร้าย ได้กลายเป็นปีศาจร้ายซะเอง เพราะวิธีการที่มันผิดแล้วผิดอีกมาตั้งแต่ต้น สะสมไปเรื่อยๆ กลับตัวก็ไม่ได้ จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึง  

ส่วนความประทับใจน่าจะเป็นในช่วงเวลาที่คนเรารู้อนาคตว่าตัวเองจะตาย แล้วไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่หวาดระแวงว่าจะตายยังไง แบบไหน  สิ่งสำคัญที่สุดในวินาทีสุดท้าย คือการที่เราใช้ชีวิตต่างหาก ไม่ใช่ว่าเราจะตายยังไง เพราะฉะนั้น เราควรทำอะไรที่เราต้องการ ทำตามความเชื่อ ทำตามที่ใจเราปรารถนา ใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วตายไปอย่างภาคภูมิใจดีกว่า

ดูซีรีย์แล้วย้อนดูตัวเอง

Image source :www.koreandrama.org





วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Are You Human Too?



ถ้าหากบุพเพสันนิวาส เป็นละครไทยยอดเยี่ยมแห่งปี ความ Hot ของซีรีย์เรื่องนี้ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน นับมาตั้งแต่ต้นปี 2018 มีเรื่องนี้แหละที่เข้าตากรรมการที่สุด มาคอยดูสิว่า ตอนปลายนี้จะได้รางวัลอะไรมาครองบ้าง (ถึงเรตติ้งในเกาหลีจะถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ก็เหอะ) เป็นซีรีย์ของช่อง KBS ที่ทุ่มทุนสร้างเกือบ 30 ล้านบาท


เป็นการก้าวขึ้นเป็นพระเอกครั้งแรกของ ซอคังจุน (Seo Kang-Joon) หนึ่งในสมาชิกวง 5urpirse ยอมรับว่าไม่รู้จักคะ แต่ในประวัติผ่านงานซีรีย์มาหลายเรื่องเหมือนกันและเป็นที่น่าแปลกคือ ไม่เคยดูสักเรื่อง ทั้งที่ดูซีรีย์มาเยอะมาก เอาเป็นว่า มารู้จักพระเอกคนนี้จริงๆ จากเรื่องนี้เลย ชนะเลิศทุกสิ่งอย่างคือรอยยิ้มพิฆาต ที่ยิ้มทีเหมือนจะหลุดออกมานอกจอ มองผ่านๆ คิดว่าทั้งรอยยิ้ม รูปร่างหน้าตา มีส่วนคล้ายกับ Eric Moon วง Shinhwa ที่ยิ้มทีใจละลาย โอปป้าในดวงใจอีกคน

ในเรื่องรับบททั้งหุ่นยนต์ นัมซินทรี ที่ใสซื่อและมนุษย์นัมซิน ผู้เอาแต่ใจ โมโหร้าย ทายาทนักธุรกิจ ของ P.K Group นัมซินทรี ถูกสร้างขึ้นโดยแม่ของนัมซิน ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากไม่สามารถทนความคิดถึงลูกชายที่แยกกันอยู่ตั้งแต่เด็ก และเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับมนุษย์นัมซิน จึงให้หุ่นยนต์นัมซินทรี มาสวมรอยแทนเพื่อปกป้องสิทธิในการเป็นทายาท 

         
เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กระชับ ไม่น่าเบื่อ บทให้น้ำหนักกับนักแสดงแทบจะทุกตัว ที่พลิกไปพลิกมา เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่า มนุษย์สามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา ประกอบกับฉากล้ำๆ อลังการงานสร้าง สมกับงบที่ทุ่มทุนสร้าง ซึ่งต้องยอมรับว่า บทหุ่นยนต์ นัมซินทรี มีส่วนทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ Hot มากยิ่งขึ้น บทหุ่นยนต์ทาสที่ใสซื่อ จริงใจ ไร้อารมณ์ แต่พอเมื่อมีความรัก ก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ฟินมากคะ ณ จุดนี้ เพิ่งดูจบเมื่อกี้ แต่ก็ยังอินอยู่เลย

พอดูจบยิ่งทำให้เข้าใจมากขึ้น ในเรื่องที่ซีรีย์ต้องการจะสื่อ  ว่าการเป็นหุ่นยนต์ ที่ไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก ทำถูกอย่างตามกฎที่ตั้งขึ้นมา ถูกก็บอกถูก ผิดก็บอกว่าผิด  โดยที่ไม่มีเรื่องความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง  ยังดีกว่า การเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด มีเหตุผล รู้ผิดชอบชั่วดี แต่ก็ยังเห็นแก่ตัว ที่สำคัญหุ่นยนต์นั้นไม่มีทางเปลี่ยนใจได้อย่างแน่นอน นัมซินทรีได้กล่าวไว้กับพ่อของนางเอก คังโซบง


555 เขียนมาจนบรรทัดสุดท้าย ยังไม่พูดถึงนางเอกสักประโยค ทั้งที่เป็นซีรีย์แนววิทยาศาสตร์/Romance สรุปว่าใครยังไม่ได้ดู รีบหามาดูโดยด่วน เดี๊ยวจะไม่รู้จักเจ้าหุ่นยนต์ทาสแห่งปี สุดท้ายขอปรบมือดังๆ ให้กับซีรีย์เรื่องนี้คะ 



วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Good Witch




เป็นซีรีย์ครอบครัวน้ำดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่คนไทยไม่ค่อยพูดถึง ออกอากาศทางช่อง SBS เมื่อตอนต้นปี  บอกเล่าถึงการใช้ชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน  ผ่านเรื่องราวของพี่น้องฝาแฝด ที่มีแนวคิด การใช้ชีวิตที่ต่างกันแบบสุดขั้ว เหมือนขาวกับดำ


ซาซอนฮี ( รับบทโดย Lee Da Hae ที่หน้าเปลี่ยนอีกแล้ว ) แฝดพี่  จิตใจดี เสียสละทุกอย่างให้นัองสาว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน  ใช้ชีวิตโดยการหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่พ่อตาย ปัจจุบันเป็นแม่บ้าน มีลูกสาว 1คน   แต่ก็ยังคงหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ดี เนื่องจากสามีไม่ได้ทำงานทำการอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน  น้องสาวต้องมาก่อนเสมอ เป็นคนดี  มองโลกในแง่ดี เชื่อคนง่าย ทำให้โดนคนอื่นเอารัดเอาเปรียบมาตลอด  มีความเชื่อที่ว่า ความดี และความถูกต้อง สามารถเอาชนะทุกอย่างได้


ซาโดฮี  แฝดน้อง เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น หลอกใช้คนอื่นเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย  ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แม้แต่การต้องเหยียบย่ำพี่สาวและครอบครัว  ไม่เชื่อในความรัก การแต่งงาน ปัจจุบันทำงานเป็นแอร์โอสเตสที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ในสายการบินทงแฮ  แม่มดอำมหิตคือ ฉายาที่นางได้รับในที่ทำงาน  มีความเชื่อว่า  เงินและอำนาจเท่านั้น ที่จะทำให้ตัวเองไปถึงฝั่งฝัน


เมื่อซาโดฮีต้องเข้ารับการรักษาตัวโดยด่วน นางได้ขอร้องพี่สาวให้ไปทำงานแทนในฐานะแอร์โอสเตส เพื่อที่ความฝันของนางจะได้ไม่หยุดชะงัก ความสนุกจึงเริ่มเกิดขึ้น ซาซอนฮีที่ใช้ชีวิตแบบแม่บ้านธรรมดามาตลอด ต้องมาเปลี่ยนลุคตัวเอง เป็นน้องสาวที่ใช้ชีวิตดังเจ้าหญิง ทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัว ความเปลี่ยนไปของซาโดฮี (ซาซอนฮี) ทำให้คนรอบตัวสงสัย และเข้าไปสะดุดตา  กัปตันซง ซงอูจิน (รับบทโดย Ryu Soo Young)  ผู้ชายที่ต่อต้านกับชีวิตการแต่งงานและผู้หญิง เมื่อเขารู้จักกับซาโดฮี ความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไป อยู่ๆ ก็เกิดหลงรักแม่บ้านซาซอนฮีที่อยู่ในคราบของซาโดฮี

เมื่อได้เข้ามาทำงานแทนน้องสาว ซอนฮี ได้รู้ว่า กว่าที่น้องสาวจะได้มาถึงจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และการใช้ชีวิตแบบน้องสาวบางเรื่องมันก็ไม่ได้แย่มากนัก โดยเฉพาะเมื่อตอนที่จับได้ว่าสามีเธอมีชู้ หากเป็นซอนฮี คงได้แต่ให้อภัยกับการกระทำของสามี แต่เมื่อเป็นโดฮี ทุกอย่างก็ต่างออกไป ซึ่งในระหว่างที่ซอนฮีได้เรียนรู้และเริ่มสนุกกับการเป็นตัวของตัวเอง โดฮีก็เริ่มฟื้นขึ้นมา

ความน่ารักของคังโซบง ลูกสาวของซาซอนฮี ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้มีสีสันมากขึ้น เด็กหญิง (น่าจะอายุประมาณ 7-8 ขวบ) ที่ฉลาด รู้ทันคนอื่น มีความคิดเกินตัว คอยปกป้องและให้คำปรึกษาแม่อยู่เสมอ เนื่องจากรู้ว่าแม่เป็นคนที่ดีเกินไป ส่วนตัวคิดว่าคังโซบง เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับแม่อย่างซาซอนฮี การเป็นคนดีมากเกินไป บางครั้งมันก็ไม่ได้ช่วยให้อยู่รอดในสังคมได้ ควรจะมีทั้งด้านดีและด้านร้ายอยู่ในตัว เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์  ดีบ้างร้ายบ้าง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เพื่อไม่ให้คนอื่นมาเอารัดเอาเปรียบ

เครื่องบินจะบินขึ้นได้ มันต้องอาศัยแรงลมในการปะทะ ดังนั้น เมื่อชีวิตเจออุปสรรคหรือแรงลมปะทะ  เราจึงไม่ควรวิ่งหนี แต่ให้มองว่ามันเป็นโอกาสที่จะได้เผชิญหน้า เพื่อทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ปิดท้ายกับคำคมจากเรื่องนี้คะ

Image source : www.koreandrama.org




วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561

What’s Wrong With Secretary Kim?




ดูซีรีย์เรื่องนี้แล้วคิดถึงหนังเรื่อง There's Something About Mary เมื่อปี 1998 ที่คามิรอน ดิแอซ  รับบทเป็นแมรี่ สาวสวยที่ชายหนุ่มหลายคนหลงรัก ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับซีรีย์เรื่องนี้ไหม แต่ในขณะที่ดูซีรีย์ ภาพหนังเรื่องนี้มันก็ลอยมาขึ้นมา.... เรื่องราวเกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆ คิมมินโซ เลขาสาวที่ทำงานอยู่ด้วยกันมาถึง 9 ปี ก็ขอลาออกจากการทำงาน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากมีเวลาไปใช้ชีวิตของตัวเอง ทำให้ท่านรองประธาน อย่าง อียองจุน ตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมา ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับเลขาของเค้า


Park Seo Joon รับบท อียองจุน ผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ไม่มีที่ติ Perfect ไปซะทุกอย่าง เวอร์วัง อลังการ งานสร้าง มโนสุดๆ  ไม่ได้เห็นบทพระเอกแบบนี้มานาน ต้องขอยกนิ้วให้คนเขียนบท ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ที่สำคัญเพิ่งเคยดู พัคซอจุนแสดงเป็นเรื่องแรก ฉากแรกเปิดตัว ทำไมพระเอกหน้าตาแบบนี้นะ แต่พอดูไปเรื่อยๆ อ้าวออร่าออก เหมือนที่ อียองจุนชอบพูดเสมอ ว่าเค้าเป็นคนมีออร่า 5555 ความ hot ของเค้าเริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้วจากเรื่อง Fight For My Way และปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของพัคซอจุนเลยก็ว่าได้


Park Min Young  รับบทเป็น คิมมินโซ หรือที่ใครๆ เรียกว่าเลขาคิม ทำงานเก่งไม่มีที่ติ  รู้ใจและรู้ทัน ท่านรองประธานอย่างอียองจุน ไปหมดทุกอย่าง ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพราะต้องทำงานใช้หนี้ให้พ่อ และส่งให้พี่สาวได้เรียนหมอจนจบ เมื่อใช้หนี้หมด จึงตั้งใจลาออกจากงาน เพื่อไปตามหาความฝันและได้ใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเองจริงๆ  เรื่องนี้นางสวยมาก ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา โดยเฉพาะเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับเรื่อง Sungkyunkwan Scandal ที่เป็นเรื่องแรกที่ได้ดูนางแสดง  

ดูเอาฮาอย่างเดียวคะ ซีรีย์เรื่องนี้ เน้นผ่อนคลายสมอง  แค่รองประธานอียองจุน คนเดียว ก็คุมทั้งเรื่องได้อยู่มัด มีแซมๆ เรื่องราวของพนักงานใน  Office  ส่วนปมอะไรที่แถมมา ไม่ค่อยดึงดูดใจมากนัก เฉยๆ ในจุดนี้ เคมีพระนางเข้ากันมาก เหมือนมีข่าวออกมาตอนซีรีย์ใกล้จะจบว่าคู่นี้แอบคบกันมาก่อนที่จะมาแสดงซีรีย์เรื่องนี้เสียอีก แต่ต้นสังกัดก็ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

ส่วนตัวละครที่ชื่นชอบ อีกบทหนึ่ง ก็คือบทของ ผอ.พัค เพื่อนของอียองจุน ที่เป็นกูรูให้คำปรึกษาในเรื่องของความรัก ระหว่างอียองจุนกับเลขาคิม เค้าจะมีข้อคิด คำแนะนำดีๆให้กับท่านรองประธานอยู่เสมอ แต่ทว่าในชีวิตจริงชีวิตคู่ของตัวเองกลับเอาตัวไม่รอด... ความรักไม่ใช่เรื่องของแนวคิด ที่วัดกันว่านี่ผิดนั้นถูก ไม่มีสูตรสมการที่ลงตัว แต่เป็นเรื่องของคนสองคน ว่าจะยอมปรับบางสิ่ง บางอย่าง เพื่อเข้าหากันหรือเปล่า...

แล้วถ้าวันนั้นเลขาคิม ยังตัดสินทำงานต่อ วันนี้ท่านรอง อาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง หรือ รู้ใจตัวเองดีแต่ก็จะยังไม่เริ่มต้นทำอะไร เพราะยังไงเลขาคิมก็ตัวติดกับเค้าตลอดเวลาอยู่แล้ว  นั้นไงคะ...คนเรามักไม่เห็นความสำคัญหรือเห็นค่ากับอะไรที่อยู่ใกล้ๆ หรอก แต่จะพยายามไขว่ขว้ามันเมื่อตอนที่กำลังจะเสียหรือเสียมันไปแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักเท่านั้น หลายๆ เรื่องคนเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ...เป็นข้อคิดอีกข้อที่ได้จากซีรีย์เรื่องนี้คะ

Image source : www.koreandrama.org