วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Sketch



ความคิดแว๊บแรกที่หยิบซีรีย์เรื่องนี้มาดู เป็นเพราะเห็นหน้าเรนอยู๋ในโปสเตอร์ ถือว่าไม่ได้เป็นแฟนคลับเรนโดยตรง (ไม่เคยดูเรื่อง Full House ตอนนั้นในไทยดังแค่ไหนใครๆก็รู้)  แค่เคยได้ดูผลงานแบบจริงจังเมื่อหลายปีก่อน กับเรื่อง  Please Come Back,Mister  ซีรีย์สนุกดี และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นเรนรับเล่นซีรีย์อีกเลย จนมาถึงเรื่องนี้


เป็นซีรีย์แนวสืบสวน สอบสวน จากค่าย JTBC ช่องเคเบิ้ลของเกาหลี ได้เรนและลีดองกันมาประกบคู่กัน ไม่ใช่บทพระนางนะคะ แต่เป็นบทพระเอกกับพระรอง คือจริงๆ ถ้าบทของลีดองกันโยนให้นักแสดงหญิงเล่น ตอนจบน่าจะได้ลงเอยกับเรน 555เนื้อเรื่องจะเรื่อยๆ ไม่หวือหวา เหมือนกับเรตติ้งที่ได้มา เหมาะสำหรับคนดูที่เป็นคอซีรีย์แนวนี้จริงๆ


เป็นเรื่องของทีมสอบสวนพิเศษ ที่ป้องกันการเกิดอาชญากรรมล่วงหน้า โดยหนึ่งในทีมนี้ คือ ยุนชีฮยอน(อีซันบิน) ที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นอนาคตล่วงหน้าของคนตาย โดยการสเก็ตออกมาเป็นภาพ แล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อยับยั้งเหตุที่จะเกิด โดยภาพนั้นจะเกิดขึ้นภายใน 3 วัน หากเกินเวลานั้นไปแล้ว เหตุการณ์จากภาพก็จะไม่เกิด โดยมีนายตำรวจ คังดงซู (เรน) ได้เข้ามาร่วมทีม เพราะต้องการตามสืบหาความจริง และตามล่าตัวคนร้ายที่ฆ่าอัยการมินจีซู คนรักของเขาตาย  


ปัญหาของการทำงานที่เจอประจำของทีมสอบสวนคือ จะพบว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นำหน้าพวกเขาและคอยขัดขวางการทำงานตลอดเวลา เหมือนกับว่าคนกลุ่มนั้นสามารถล่วงรู้อนาคตได้เหมือนกับ ยุนชีฮยอน ที่สำคัญคือ คิมโดจิน (ลีดองกัน) คนร้ายที่ฆ่าอัยการมินจีซู อยู่ในกลุ่มดังกล่าว แต่ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้น ดูเหมือนว่าการทำงานของทั้ง 2 กลุ่มนั้นจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือการตามล่าหาตัวผู้อาวุโส ผู้มีอิทธิพลที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย

ความสนุกของเรื่องนี้ คือ คนร้ายแทบจะไม่มีบทบาทเลย หรืออาจจะพูดว่าคนร้ายแทบไม่มีตัวตน (แค่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่มีบทบาทในเรื่องสักเท่าไหร่) ซึ่งเนื้อเรื่องถ่ายทอดวิธีการทำงานของคน 2 กลุ่ม โดยมีเป้าหมายเดียวกัน

กลุ่มแรก ทีมสวนสวนพิเศษ มองเห็นอนาคต เพื่อยับยั้งเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น ใช้กฎหมายในการทำงาน
กลุ่มสอง คนนิรนาม มองเห็นอนาคต แต่ใช้อนาคตเป็นเครื่องมือ เพื่อให้การทำงานบรรลุผล ใช้ศาลเตี้ยแทนกฎหมาย เมื่อเห็นว่ากฎหมายไม่สามารถลงโทษคนผิดได้

ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นว่ากลุ่มที่สอง ที่ต้องการจะจับคนร้าย ได้กลายเป็นปีศาจร้ายซะเอง เพราะวิธีการที่มันผิดแล้วผิดอีกมาตั้งแต่ต้น สะสมไปเรื่อยๆ กลับตัวก็ไม่ได้ จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึง  

ส่วนความประทับใจน่าจะเป็นในช่วงเวลาที่คนเรารู้อนาคตว่าตัวเองจะตาย แล้วไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่หวาดระแวงว่าจะตายยังไง แบบไหน  สิ่งสำคัญที่สุดในวินาทีสุดท้าย คือการที่เราใช้ชีวิตต่างหาก ไม่ใช่ว่าเราจะตายยังไง เพราะฉะนั้น เราควรทำอะไรที่เราต้องการ ทำตามความเชื่อ ทำตามที่ใจเราปรารถนา ใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วตายไปอย่างภาคภูมิใจดีกว่า

ดูซีรีย์แล้วย้อนดูตัวเอง

Image source :www.koreandrama.org





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น