วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

A Korean Odyssey / Hwayugi



เป็นซีรีย์เรื่องแรกที่ดูจนจบแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเอามาเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไรดี จึงได้แต่ปล่อยเลยไป จนกระทั่งเมื่อมีบทความหนึ่ง ของ Joy News 24 ที่จัดแบบสอบถามเกี่ยวกับซีรีย์ยอดเยี่ยม และซีรีย์ยอดแย่ แห่งปี 2018 ( Best / Worst Drama Of 2018 ) โดยผู้เชี่ยวชาญ 200 คนของวงการบันเทิงเกาหลี  ซึ่งประกอบด้วย โปรดิวเซอร์, นักข่าว และหน่วยงานที่เกียวข้องได้ร่วมกันทำแบบสอบถาม Source และแน่นอนซีรีย์เรื่องนี้ ได้อันดับหนึ่งของซีรีย์ยอดแย่แห่งปี 2018 ได้ 43 Vote จาก 200 Vote



เป็นซีรีย์ที่ดัดแปลงมาจาก เรื่องไซอิ๋ว ที่เราเคยรู้จักดีตั้งแต่ยังเด็ก แตกต่างกัน ก็คือ ซัมจัง ที่เวอร์ชั่นนี้ เป็นมนุษย์ผู้หญิง ชื่อจินซอนมี (รับบทโดย Oh Yeon Seo) มนุษย์ที่เป็นที่หมายปองของเหล่าปีศาจ รวมถึง ซนโอกง (รับบทโดย Lee Seung Ki) ที่ถูกสวรรค์ลงโทษกักตัวให้อยู่บนโลกมนุษย์ ต้องทำความดีโดยการไล่ล่าเหล่าปีศาจ จึงจะได้มีโอกาสกลับขึ้นไปบนสวรรค์อีกครั้ง ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของราชาปีศาจวัวกระทิง (รับบทโดย Cha Seung Won) ทำให้ซนโอกง โดนกักขังด้วยกึมกังโก ที่จินซอนมี สวมให้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กึมกังโก ได้บีบรัดที่หัวใจ ส่งผลให้ซนโอกง ต้องหลงรักจินซอนมีอย่างหัวปักหัวปำ ถึงจะหายจากอาการเจ็บปวดได้


ด้วยดาราที่คัดสรรมากันเพียบ เกือบจะมาทั้งวงการบันเทิงเกาหลี ด้วยบท ด้วยเนื้อหา ในช่วงแรกๆ ยอมรับว่าหน้าติดตาม แต่พอ Ep หลังๆ ความไม่สมเหตุสมผลเริ่มมา โดยเฉพาะบทบาทของตัวร้าย และ นางร้าย ที่ดูจนจบก็ยังมึนและอึนอยู่ แต่ถ้าพูดถึงความฮา เรื่องนี้มีมาให้เห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะบทของซนโอกง กับ ราชาปีศาจวัวกระทิง ที่กัดจิกกันอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่าจะเด่นกว่าบทของนางเอกจินซอนมี ซะอีก


ถึงแม้ในเกาหลีเรตติ้งจะค่อนข้างน้อย แต่ที่เมืองไทยกลับตรงกันข้าม (ส่วนตัวที่เริ่มดูก็เพราะว่าชอบ Lee Seung Ki และ Cha Seung Won เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว)   ทำให้เชื่อว่า การนำดารามาเป็นจุดขาย ยังใช้ได้ผลดีกับตลาดต่างประเทศ ส่วนเรื่องบท เนื้อหา เป็นเรื่องรองลงมา ดาราดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

Image Source :www.koreandrama.org

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

100 Days My Prince



เป็นซีรีย์ที่คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดู เพราะไม่ใช่ติ่ง EXO และด้วยมีอคติว่าไม่ค่อยชอบสายไอดอล ที่มาเป็นพระเอก(เป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่า) แต่ด้วยกระแสเรตติ้งที่มาแรง แซงทางโค้ง (ติด Top 5 ซีรีย์ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิ้ล อยู่ในอันดับ 4 ด้วยตัวเลข 14.412% และอยู่ในอันดับ 2 ซีรีย์ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิ้ล ในปี 2018 รองจาก Mr. Sunshine [Source] เอาอ่ะ ในเมื่อมาแรงถึงขนาดนี้ ก็ขอดูสักหน่อย


เล่าถึงองค์รัชทายาทอียูล (รับบทโดย D.O EXO) ที่ถูกลอบสังหารในขณะที่เดินทางไปทำพิธีขอฝน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ความจำเสื่อม ต้องมาใช้ชีวิตเป็นสามัญชน คนธรรมดา ภายใต้ชื่อ วอนดึก เป็นเวลาถึง 100 วัน รวมถึงการจำใจแต่งงานกับหญิงสาวชาวบ้าน นามว่า ฮงซิม (รับบทโดย Nam Ji Hyun) คู่หมั้นคู่หมายของวอนดึก   ที่จำเป็นต้องรีบแต่งงาน ตามคำสั่งขององค์รัชทายาท ที่บังคับให้คนโสดในแผ่นดินทุกคนต้องแต่งงานกัน


เมื่อได้มาใช้ชิวิตแบบสามัญชน วอนดึก กลายเป็นผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ เนื่องจากทำงาน ทำการไม่เป็น แถมยังสร้างภาระ หนี้สิน เป็นตัวปัญหาให้กับฮงซิมตลอดเวลา  พูดง่ายๆ คือมีแค่หน้าตาที่หล่อเหลาเพียงอย่างเดียวที่ใช้การได้ แต่พออยู่นานวัน วอนดึกก็พยายามปรับตัวเองมากขึ้น พร้อมๆ กับความทรงจำที่ค่อยๆ กลับมา และเริ่มรู้ตัวว่าได้หลงรักภรรยาของตัวเองเข้าให้แล้ว

ด้วยความรู้สึกพิเศษที่มีให้กับฮงซิม ทำให้วอนดึกเริ่มไม่อยากให้ความทรงจำของตัวเองกลับคืนมา และฮงซิมเอง ก็ไม่อยากจะโกหกชายคนรักต่อไป ว่าแท้จริงแล้วเขาก็ไม่ใช่วอนดึก ชายคู่หมายของเธอ แต่เมื่อทุกอย่างกำลังจะลงตัว ความจริงก็เผยออกมา ว่าวอนดึกคือองค์รัชทายาท ผู้ซึ่งมีพระมเหสีที่กำลังตั้งครรภ์ รออยู่ที่วัง และองค์รัชทายาทต้องกลับเข้าวังในที่สุด


เป็นซีรีย์ที่ดูได้เรื่อยๆ ค่ะ แต่ส่วนตัวดูแล้ว ไม่ได้มีอาการลงแดงสักเท่าไหร่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ได้เรตติ้งดี คือส่วนไหน (เพราะ EXO หรือเปล่า) เนื้อเรื่องรู้สึกเฉยๆ มีอีกหลายเรื่องที่น่าจะดีกว่านี้ หรือเป็นเพราะเราดูซีรีย์เยอะไปหน่อย เลยมีเรื่องให้เปรียบเทียบเยอะ ส่วนนักแสดงนำ D.O เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ Aura มาเต็ม ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แบบไอดอล มาเป็นพระเอก เหมือนกับที่คิดไว้ตอนต้น ถือว่าสอบผ่านสำหรับการเป็นพระเอกเรื่องแรก นักแสดงที่เหลือภาพรวมดีมาก สามารถสร้างสีสันให้กับเรื่อง สรุปว่าเพราะเรตติ้งดี เก็บเอามาดูอีกสักเรื่องก็ไม่เสียหายค่ะ

Image Source :www.koreandrama.org

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Let Me Introduce Her




แค่เปิดเรื่องมา ก็ชวนให้น่าติดตาม สำหรับซีรีย์เรื่องนี้ เนื้อเรื่องเล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกตามล่า จนตัดสินใจไปทำศัลยกรรม เพื่อที่จะให้คนร้ายจำไม่ได้ ทั้งที่หน้าตาเดิม เป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวย ไม่มีที่ติ ในครั้งแรกหมอศัลยกรรมไม่ยอมทำให้เนื่องจากถือว่าเป็นการผิดจรรยาบรรณของหมอ แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องทำ เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ ได้เคยช่วยชีวิตของหมอเอาไว้ และเห็นใจที่ต้องถูกคนร้ายตามล่า


และเมื่อหมอ ฮันคังอู (รับบทโดย Kim Jae Won) ได้ทำการผ่าตัดให้เรียบร้อย กลับมีผลข้างเคียง ทำให้นางความจำเสื่อม ที่สำคัญผู้ที่รับรองเป็นญาติในการผ่าตัด ก็ตามตัวไม่เจอ แถมชื่อที่นางให้ไว้ก่อนการผ่าตัดกลายเป็นชื่อปลอม หมอคังฮูจึงให้นางย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้าน ในระหว่างที่รักษา เนื่องจากถือว่าเป็นความรับผิดชอบของหมอที่ทำให้คนไข้ความจำเสื่อม  3 เดือนผ่านไป จากการที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ พัฒนากลายเป็นความรัก โดยที่ยังไม่ได้รู้ตัวตนของหญิงสาวเลยสักนิด


จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากบริษัทจัดหางาน ว่าตอนนี้สามารถหางานที่นางเคยติดต่อไว้ว่าอยากทำ มีตำแหน่งว่างพอดี นั้นคืองานแม่บ้าน ของบ้านผู้ประกาศข่าวชื่อดัง คังซานกี (รับบทโดย Jo Hyun Jae) ผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันอยากใด้มาเป็นสามีของตัวเอง ด้วยความที่อยากจะหาเบาะแสเกี่ยวกับที่มาที่ไปของตนเอง นางจึงได้ตัดสินใจเข้าไปทำงานในบ้านหลังนั้น จนกระทั่งได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วตัวเองคือ จีอึนฮัน (รับบทโดย Nam Sang Mi) ภรรยาสาวของผู้ประกาศข่าวคังซานกี ที่ได้หนีออกจากบ้านไปประมาณ 6 เดือนได้


แล้วทำไมจีอึนฮัน ผู้หญิงที่หญิงสาวทุกคนต่างอิจฉา ถึงได้หนีออกจากบ้าน  แล้วไปทำศัลยกรรม เพื่อที่จะได้กลับมายังบ้านนี้อีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ แล้วความรักระหว่างหมอคังอูกับจีอึนฮัน จะลงเอยได้อย่างไร ในเมื่อนางเป็นผู้หญิงที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก ได้กลิ่นน้ำเน่าหน่อยๆ และอาจจะใช้นักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ แต่ SBS ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังกับพล้อตเรื่องแบบนี้ เป็นซีรีย์ที่แนะนำอีกเรื่องค่ะ

ผู้ชายที่ดี ที่รักเราจริง อาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพร้อมทุกอย่าง
สิ่งที่เห็น กับสิ่งที่เป็น อาจเป็นคนล่ะเรื่องก็ได้
อยากได้ความรัก ก็ให้เลือกแบบแรก
อยากได้อำนาจ เงินทอง ให้เลือกแบบที่ 2
สุดท้ายแล้วขอแสดงความยินดีกับผู้หญิงที่ได้ผู้ชายแบบ 2 in 1”

ดูซีรีย์แล้วมองย้อนดูตัวเองกันค่ะ

Image Source :www.koreandrama.org

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

The Ghost Detective




ผีสาว 2018 แห่งปี ต้องซีรีย์เรื่องนี้เลยค่ะ เป็นซีรีย์ที่ดูจนจบ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสาเหตุของการฆ่าคนบริสุทธิ์สักเท่าไหร่ แต่ด้วย บท การดำเนินเรื่อง ถือว่าเป็นซีรีย์ที่น่าดูอีกเรื่อง ซีรีย์ที่น่าดูในความหมายของตัวเอง คือ ชวนให้น่าติดตาม ดูเสร็จแล้วอยากจะดูต่อเลย หากอยู่ในช่วงที่กำลัง On Air ก็จะมีอาการลงแดงเข้าร่วมด้วย รออาทิตย์หน้าแทบจะไม่ไหว ตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอหน้าจอกันเลยทีเดียว

ซีรีย์เล่าถึงการฆาตกรรมแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการฆ่าตัวตาย ที่หาสาเหตุไม่ได้ ลีดาอิล (รับบทโดย Choi Daniel ) อดีตนายทหารที่มีคดีความจนต้องออกจากทำงาน ผันตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน  ได้รับมอบหมายให้สืบคดีลักพาตัวเด็ก จนรู้ว่าคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ทว่าตัวเขาเองกลับตายไปในวันนั้น ซึ่งคนเดียวที่สามารถมองเห็นวิญญาณของลีดาอิลได้คือ จองยออุล (รับบทโดย Park Eun Bin) พนักงาน part time ที่มาทำงานในสำนักงานนักสืบ เพื่อสืบหาการตายของน้องสาว


ซอนยูฮเย (รับบทโดย Lee Ji Ah และ Heo Jung Eun) หญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งอย่างในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่นางเป็นผีหรือตอนที่นางเป็นคน นางเก่งมาก เก่งจนไม่รู้จะบรรยายยังไง จนยกให้เป็นผีสาวแห่งปี นางโผล่ออกมาเมื่อไหร่ คืออย่างน้อยต้องมีคนตายสักคน ซึ่งคนที่สามารถต่อกรกับนางได้ก็มีแค่ ลีดาอิล (ที่ตายไปแล้ว) เท่านั้น

นอกจากเรื่องผีๆ ในเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ซาบซึ้ง คงเป็นความรักของคนกับผี ระหว่าง ลีดาอิล กับ จองยออุล ที่เกิดขึ้นในช่วงการสืบคดีนี้  และด้วยการที่เป็นผี  วิธีการปกป้องคนรักก็ดูเหมือนจะแตกต่างจากคนปกติ เพราะเอาเข้าจริงมันก็มีหลายเรื่องที่ผีทำไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้อย่าคาดหวัง บทเข้าพระเข้านาง 555+ นอกจากนั้น ก็ยังมีความรัก ความผูกพัน ระหว่างตัวละครอื่นๆที่อยู่ในทีม  ผู้จัดการฮัน  กิลแซวอน หมดชันสูตรศพ และ สายสืบพัค ตำรวจที่ไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่ต่างได้ช่วยกันไขคดี ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ล้มเลิกการสืบสวน


สิ่งที่ซีรีย์พยายามจะสื่อให้เห็นก็คือ ผีร้าย ปีศาจ มัน ก็ไม่ได้ต่างจากคนร้าย คนเลวที่แฝงตัวอยู่ในสังคม แต่สิ่งที่น่ากลัว มันคือการหันหลัง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ของคนที่อยู่ในสังคมมากกว่า ที่สำคัญแม้ผีจะร้ายสักแค่ไหน แต่ถ้าภายในจิตใจคนเราไม่โอนเอน ไม่โลภ ผีตัวไหนก็ไม่สามารถควบคุมหรือทำร้ายเราได้ หวังว่าจะมี Season 2 ตามมาเร็วๆนี้ เป็นซีรีย์ที่แนะนำอีกเรื่องค่ะ


วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Tempted / Great Temptation



สายที่ชอบอ่านนิยายประโลมโลก ไม่ควรพลาด เรียนเชิญมาดูซีรีย์เรื่องนี้ค่ะ ที่ดูซีรีย์เสร็จ เชื่อว่าคอนิยายหลายคนต้องอยากอ่านต้นฉบับของนิยายเรื่องนี้ที่ต่อแน่ๆ ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากนิยายฝรั่งเศส Les Liaisons Dangereuses นำมาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นเกาหลี ดังนั้นบางบทบางตอนที่เข้าใจว่ามันจะสุด มันก็จะหายไป ด้วยสภาพทางสังคม วัฒนธรรมของเกาหลีที่แตกต่างจากฝรั่งเศส ที่สำคัญความรู้สึกของตัวละครบางอย่าง ที่เวลาถ่ายทอดออกมาทางซีรีย์ อาจทำให้คนดูไม่เก็ท เท่ากับการอ่าน ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้เรตติ้งของซีรีย์เรื่องนี้  ลดน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนจบ

เป็นเรื่องราวของ เด็กวัยรุ่น 2 หนุ่มกับ 1 หญิงสาว  เพื่อนรัก เพื่อนสนิท ที่ทำเรื่องบ้าบิ่นร่วมกันประจำ ด้วยความที่เป็นทายาทนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของเกาหลี จึงไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ เพิ่งเรียนจบระดับ High School แน่นอนด้วยความรวยอยู่แล้ว จึงไม่มีใครที่คิดจะศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยกันเลย ถ้าหากใครเคยดู Gossip Girl ตอนที่เปิดตัวตัวละครทั้ง 3 ตัวนี้คิดว่าเป็น  เป็น Gossip Girl เวอร์ชั่นเกาหลียังไงยังงั้น


ควานซีฮยอน (รับบทโดย Woo Do Hwan) หลานชายคนเดียวในเครือบริษัท JK ใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ไม่ลงรอยกับพ่อ หน้าตาดี  มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามมาก  ตั้งแต่แม่ตายไป งานอดิเรกที่เขาทำเป็นประจำคือ ไม่ว่าพ่อเขาจะชอบผู้หญิงคนไหน ชีฮยอนจะตามไปอ่อยผู้หญิงคนนั้น แล้วทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นหลงรัก สุดท้ายก็จะทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใย โดยความร่วมมือของเพื่อนทั้ง 2 คน เคยชอบ ซอยซูจี แต่โดนเธอปฏิเสธ และรู้มาตลอดว่า ลีเซจู ก็มีใจให้กับซูจี ที่สำคัญซีฮยอน เข้าใจว่าความรักแบบเพื่อนนี่แระ ที่จะทำให้ทุกอย่างยั่งยืน


ซอยซูจี (รับบทโดย Moon Ga Young) สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวในแก็งค์ สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง น่าจะเป็นคำนิยามที่เหมาะกับเธอ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลมยองดอง มีใจให้กับควานซีฮยอน แต่ต้องเก็บอาการไว้ (ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เหมือนกัน) คงเป็นเพราะในความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนในปัจจุบัน ที่เธอและลีเซจู ต่างก็เป็นคนสำคัญของซีฮยอนอยู่แล้ว เชื่อว่าซีฮยอน จะไม่มีวันทิ้งความสัมพันธ์นี้ไป โลกทั้งใบจะมีแค่เรา 3 คน ประมาณนี้ จุดเปลี่ยนเกิดจากโดนแฟนบอกเลิกเนื่องจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของธุรกิจโรงพยาบาลที่แม่ดูแล ซูจี รู้สึกว่าเสียหน้ามาก จึงต้องการจะแก้แค้น


ลีเซจู (รับบทโดย Kim Min Jae) ลูกชายคนเล็กเจ้าของบริษัทในเครือจูซอง ในชีวิตไม่มีความกดดันใดๆ รักสนุกไปวันๆ หลงรักซอยซูจี ไม่ว่าจะเธอจะทำอะไร ก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ และรับรู้มาตลอดว่าซูจี แอบรัก ซีฮยอน แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างเพื่อน เลยเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ คือการมองดูความเป็นไปของซูจี และอยู่ข้างๆซูจี ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ตาม คอยเป็นตัวกลางสานสัมพันธ์ระหว่างซูจี และ ซีฮยอน ในยามที่ผิดใจกัน


อึนแทฮี (รับบทโดย Joy วง Red Velevt) หญิงสาวฐานะธรรมดา ที่พ่อแม่หย่ากัน ได้รับทุนการศึกษาจากโรงพยาบาลมยองดองในการเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย  ทำ Part time ทุกอย่างที่ขวางหน้า สดใส ฉลาด ร่าเริง ไม่เชื่อมั่นในเรื่องความรัก ค่อนข้างจะปิดตัวเอง เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่

จุดเริ่มต้นในเหตุการณ์วุ่นๆ เกิดขึ้นจากการประกาศแต่งงานแบบกะทันหันระหว่างพ่อของควานซีฮยอนและแม่ของซอยซูจี แน่นนอนว่าทั้ง 2 คนไม่สามารถรับได้ จึงตัดสินใจว่าจะชิงแต่งงานกันเองตัดหน้าพ่อกับแม่ โดยซอยซูจีมีข้อแม้ว่า หากชีฮยอนไปล่อลวงรักแรกของแฟนเก่าเธอ (ที่ทิ้งเธอไป) ซึ่งก็คือ ฮึนแทฮี แล้วทิ้งแทฮีไป เพื่อทดแทนความเสียหน้าที่เธอโดน จะยอมแต่งงานกับซีฮยอนทันที ซึ่งข้อแม้นี้ได้ปิดบังไม่ให้เซจูรู้

เมื่อซีฮยอนได้ดำเนินการตามแผน เขาเองได้ตกหลุมรักแทฮีโดยไม่รู้ตัว ในทางตรงข้ามความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเพื่อนก็ได้ห่างกันออกมา จากคนร้ายๆ สามคนที่เคยร่วมกันทำเรื่องไม่ดีหลายอย่าง กลับต้องมาทำร้ายกันเอง โดยที่เห็นว่าเหตุผลของตัวเองมันถูกต้องที่สุดแล้ว และแน่นอนเหยื่อในเรื่องอย่างแทฮี สุดท้ายกลายเป็นคนที่เจ็บปวดใจที่สุด นี่ยังไม่รวมความสัมพันธ์ในรุ่นของพ่อแม่ที่อีรุงตุงนัง พัวพันกันสุดๆ นี่มันนิยายชัดๆ

บทเรื่องนี้ค่อนข้างจะสนุก แต่เป็นซีรีย์ที่ดูแล้ว สำคัญมากที่ต้องคิดตาม เพราะถ้าหากไม่คิดจะไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวละครเลย แล้วก็อาจจะทำให้ไม่สนุกก็เป็นได้ ส่วนตัวแล้วแอบดองเรื่องนี้ไว้นานเหมือนกัน ไม่ค่อยชอบซีรีย์ที่มีแต่นักแสดงวัยรุ่นที่เป็นตัวนำเรื่องสักเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ดูก็เริ่มคิดต่างออกไป นักแสดงนำแต่ล่ะคน นำเสนอออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะบทของควานซีฮยอน ซอยซูจี และ ลีเซจู ที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกที่มีออกมาได้ทั้งหมด แต่จะแสดงยังไง ให้รู้ว่า กำลังคิดแบบนี้ เป็นแบบนี้นะ ถึงเรตติ้งที่ได้มาจะน้อย แถมติด list ละครยอดแย่แห่งปี 2018 Worst Drama of 2018 (ได้ 16 vote จาก 200 vote โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการบันเทิง ) แต่ถ้ามีเวลาก็หามาดูกันได้ค่

Image Source : www.koreandrama.org

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Man to Man



เป็นซีรีย์แนวสายลับ แอคชั่น โรแมนติก คอมเมดี้ ครบรส เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย  สามารถดูได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง  หากใครที่อยากจะดูซีรีย์แบบไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูเพื่อความบันเทิง  แนะนำเรื่องนี้เป็นตัวเลือกอีกเรื่องค่ะ


เป็นเรื่องราวของสายลับ Ghost  มีนามว่า K (รับบทโดย Park Hae Jin) สายลับที่ไม่มีตัวตน แฝงตัวใช้ชีวิตด้วยการเป็นคนอื่นเพื่อทำภารกิจตลอดเวลา K เป็นสายลับหนุ่มที่หน้าตาดี มีเสน่ห์มาก ซึ่งการปฏิบัติภารกิจแฝงตัวแต่ละครั้งมักมีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ดังนั้นนอกจากภารกิจที่ต้องทำ สิ่งหนึ่งที่ K จะต้องเตรียมต่อมา คือการหาวิธีจบความสัมพันธ์เมื่อภารกิจจบสิ้นลง การตายและหายตัวไปเท่านั้นที่ K คิดว่า เป็นการจบความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด


ยออุนกวาง (รับบทโดย  Park Sung Woong)  ซุปตาร์ชื่อดัง ที่มีปมหลังเรื่องของความรัก ทำตัวเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าทีมงานของตัวเอง ไม่ชอบขี้หน้า คิมซอลอู (K แฝงตัวมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว) แต่แรกพบ ซึ่งความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไป เมื่อคิมซอลอูได้ช่วยชีวิตเขาไว้ จากอุบัติเหตุในกองถ่าย ทำให้คิมซอลอูได้กลายมาเป็นน้องรัก ที่ทำอะไรก็จะดูถูกใจ ยออุนกวางไปซะหมด


ชาโดฮา (รับบทโดย Kim Min Jung) ผู้จัดการส่วนตัวของยออุนกวาง เบื้องหลังคือแฟนคลับที่หลงรักยออุนกวาง ซึ่งทุกคนในทีมงานต่างทราบดีในความจริงข้อนี้ และยออุนกวางก็รักชาโดฮาเหมือนน้องสาว เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน นางเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของ K ที่ต้องอปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง

ความสนุกของเรื่องนี้ อยู่ที่การแฝงตัวของ K เพื่อมาทำภารกิจแล้วต้องมาเจอกับยออุนกวาง ซุปตาร์ที่ขี้เวอร์ หลงตัวเอง เอาแต่ใจ และชาโดฮา หญิงสาวผู้อ่อนต่อความรัก ผู้ที่ทำให้หัวใจของ K เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญ Park Kae Jin นายเล่นเรื่องนี้ได้หล่อมาก

Image Source :www.koreandrama.org

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Nothing to Lose



ซีรีย์แนวกฎหมายที่ออกออากาศทางช่อง SBS ไปตั้งแต่ ปลายปี 2017 จำได้ว่าเป็นช่วงเดียวกับที่บินไปเที่ยวที่เกาหลีอยู่ครึ่งเดือน เลยมีโอกาสได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ที่นั่น เข้าใจบางไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็พยายามดูเพราะชอบพระเอก Yun Woo Jin มาก แต่ก็น่าแปลกที่พอกลับมาก็ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อีกเลย เพิ่งมีโอกาสได้มาดูเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ครบปีพอดี ดูไปก็คิดถึงเกาหลีไป นี่มันบรรยากาศเดียวกันเลย ภาพจำตอนที่อยู่ที่นั่นผุดขึ้นมาทันที 


ผู้พิพากษาชาอึยฮยอน (รับบทโย Yun Woo Jin) ผู้พิพากษาหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรง โปรไฟล์ดี ได้เป็นผู้พิพากษาตั้งแต่อายุยังน้อย หล่อ เท่ ฉลาดเป็นกรด ตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม เป็นเพื่อนสนิทกับอัยการโดฮันจุน มาตั้งแต่เด็ก แต่พอได้มาเป็นผู้พิพากษา กับทำตัวเหินห่างกับโดฮันจุน เพราะไม่อยากให้พ่อ ชาจองโด ที่ยังมีใจให้กับแฟนเก่าอาจารย์ยู มยองฮี ผู้ซึ่งเป็นแม่ของโดฮันจุน สนิทกันอีกต่อไป จึงเว้นระยะห่างระหว่างทั้งสองครอบครัวไว้ มีใจให้กับผู้พิพากษาลีจองจู แต่เมื่อรู้ว่าเพื่อนมีใจให้ผู้หญิงคนเดียวกัน จึงไม่เคยเผยความรู้สึกนั้นออกมา Yun Woo Jin เล่นเรื่องนี้ได้ดีมากๆ ไม่ค่อยอยากจะอวยเท่าไหร่ เพราะมีความชอบเป็นทุนเดิม แต่ถ้าเล่นดี เราควรต้องยอมจำนน ถือเป็นนักแสดงอีกคนที่ไม่ว่าจะรับบทไหน เขาก็เอาอยู่จริงๆ


อัยการโดฮันจุน (รับบทโดย Dong Ha) อัยการหนุ่ม ผู้ซึ่งมีแม่ที่เคยเป็นผู้พิพากษา และมีพ่อเป็นถึง ส.ส โดจินมยอง  ที่กำลังลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นเพื่อนสนิทของผู้พิพากษาชาอึยฮยอน ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเว้นระยะห่างสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่เคยโกรธเพื่อน หรือหยุดความเป็นเพื่อนนั้นไว้ แต่กลับการตอแยเข้าไปอยู่ใกล้ๆเพื่อนเสมอ เพราะเชื่อว่าที่เพื่อนทำแบบนั้นเพราะมีเหตุผลที่ดี เป็นรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือผู้พิพากษาลีจองจู มาตั้งแต่เด็ก แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองมีใจให้ลีจองจู แต่ก็ไม่เคยฝืนใจลีจองจูให้มารับรัก ในบทเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้ดีเวอร์ หน้าตาออกแนวร้ายๆ  แต่ในทุกอารมณ์ ทั้งในฐานะอัยการของประเทศ ในฐานะรุ่นพี่ที่หลงรักนางเอก ในฐานะเพื่อนที่เข้าใจเพื่อน ในฐานะลูกที่ยอมรับในตัวของพ่อแม่  เขาแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยม ว่า Yun Woo Jin เล่นเรื่องนี้ได้ดี เท่ และหล่อมากแล้ว แต่พอมาเจออัยการโดฮันจุน เชื่อว่าหลายคนที่ดูมีหลงรักบทพระรองคนนี้อย่างแน่นอน Dong Ha ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักนักแสดงคนนี้มาก่อน ทั้งที่เขาก็เล่นซีรีย์มาเยอะ แสดงว่าดวงเราอาจจะไม่ค่อยจะสมพงศ์กัน  แต่ยังไงก็ช่าง คิดว่าจากเรื่องนี้จะได้เกิดอย่างแน่นอน รอวันที่จะได้ดูเขารับบทพระเอกอย่างเต็มตัว


ผู้พิพากษาลีจองจู (รับบทโดย Park Eun Bin) ผู้พิพากษาหญิงที่เริ่มต้นเรื่องจากการอาละวาดในศาล ในวันที่ตัวเองพิจารณาคดี จนเป็นหลุมดำของผู้พิพากษาในศาล เปลี่ยนนามสกุลเพื่อตัดขาดจากพี่ชายที่เป็นผู้ต้องหาในคดีขมขืนและฆ่าคนตาย นับถืออาจารย์ยู มยองฮี แม่ของรุ่นพี่โดฮันจุนที่อดีตเคยเป็นผู้พิพากษา ที่ให้การสนับสนุนเธอในให้เป็นผู้พิพากษาที่ดีและประสบความสำเร็จ ทุกอย่างดูเหมือนจะดี จนกระทั่งวันที่เธอได้เจอกับพี่ชายที่เป็นนักโทษติดคุกในรอบ 10 ปี ในขณะที่พิจารณาคดี  พี่ชายของเธอได้ประกาศในศาลว่า เขาไม่ได้เป็นคนร้ายตัวจริง แต่ที่ต้องยอมรับว่าเป็นคนทำเพราะได้รับข้อตกลงที่ดี จากคนร้ายตัวจริง และในขณะนี้คนร้ายตัวจริงก็ได้นั่งอยู่ในศาลด้วย ซึ่งขณะที่พูดพี่ชายของเธอหันมองไปทางผู้พิพากษาชาอึยฮยอนและอัยการโดฮันจุน ที่นั่งอยู่ติดกันในห้องพิจารณาคดี

ถ้าใครที่ชื่นชอบซีรีย์แนวนี้ ไม่ควรพลาดกับเรื่องนี้ ที่ชี้ให้เห็นการทำงานของคณะผู้พิพากษา เรื่องนี้เน้นในส่วนการทำงานของผู้พิพากษาจริงๆ ไม่มีส่วนอื่นมาเกี่ยวข้องเลย นี่คือความแตกต่างระหว่างซีรีย์แนวกฎหมายทั่วไป รับรองว่าไม่ซ้ำกับเนื้อเรื่องอื่นในแนวนี้แน่นอน นอกจากนั้นยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวแฝงมาด้วย  บทพระนางแทบจะไม่มี เพราะทั้งคู่เป็นผู้พิพากษาหรือเปล่าไม่แน่ใจ 5555+ แต่ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษน่าจะเป็นสายสัมพันธ์ของเพื่อนระหว่างชาอีฮยอนและโดฮันจุน ที่มีให้กันมาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ความเป็นเพื่อนก็ไม่เคยห่างหายไปเลย แนะนำซีรีย์ดีๆ ที่มีคุณภาพอีกเรื่องค่ะ

Image Source :www.koreandrama.org

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

My ID is Gangnum Beauty




"นางงามคังนัม" คือที่มาของซีรีย์เรื่องนี้ เนื้อเรื่องที่ออกแนวเสียดสี ประชดประชันสภาพสังคมเกาหลีในปัจจุบัน ที่ทุกคนต่างยอมรับว่า หน้าตาดีมีชัยไปมากกว่าครึ่ง ทำให้สถาบันความงามของเกาหลี โผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ดอยู่ทั่วทุกมุมถนน แต่ที่มีเยอะที่สุด คงเป็นที่ย่านคังนัม การทำศัลยกรรมในเมืองนี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะปกติ จนมีคำกล่าวที่ว่า เมื่อลูกสาวเกิดมา พ่อแม่นอกจากจะเตรียมค่าเลี้ยงดูแล้ว จะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำศัลยกรรม เพิ่มเติมมาด้วย



คังมีแร (Im Soo Hyang) ผู้หญิงที่มีบาดแผลทางใจมาตั้งแต่เด็ก ด้วยหน้าตาที่ดูไม่ได้ เลยทำให้เธอไม่เป็นที่ต้องการในสังคม ถึงแม้จะเป็นเด็กที่เรียนเก่งก็ตาม จนกระทั่งเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยมีแม่เป็นผู้สนับสนุนหลัก และปิดบังเรื่องนี้กับพ่อ เนื่องจากพ่อของเธอไม่เห็นด้วย เพราะคิดอยู่เสมอว่าลูกสาว สวยที่สุด น่ารักที่สุด สำหรับคนเป็นพ่อ มีความใฝ่ฝันจะเป็นคนทำน้ำหอม จึงเลือกเรียนเอกเคมี




โดคยองซอก (Cha Eun Woo)ผู้ชายที่หน้าตาดีมาตั้งแต่กำเนิด หล่อตั้งแต่ DNA มาเลย (คือบทในเรื่องต้องหล่อมาก เท่ห์มาก) ฉลาด หยิ่ง ทันคน ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยชอบยุ่งกับเรื่องคนอื่น ไม่สนใจคนรอบข้างไม่เลือกมองคนที่หน้าตาหรือไม่ค่อยชอบคนสวยเพราะมีปมในใจเรื่องแม่มาตั้งแต่เด็กเข้าใจว่าคนสวยทุกคน จะเป็นเหมือนกับแม่ ที่ทิ้งครอบครัวไป เลือกเรียนเอกเคมี เพราะเป็นสิ่งที่พ่อไม่อยากให้เรียน

ซีรีย์ดำเนินไปเรื่อยๆไม่ค่อยหวือหวาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นฉากดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหลายๆตัว และ เนื่องจากบทของคังมีแร เป็นบทของผู้หญิงใสๆ ที่ไม่ทันโลก ที่ผ่านมาเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้คนดูหลายๆคนเกิดความรำคาญในคาแรคเตอร์ของคังมีแรส่วนบทพระเอกไม่ต้องพูดถึง เพราะมีรางวัล#Korea Drama Awards 2018 นักแสดงชายหน้าใหม่ จากเรื่องนี้เป็นการการันตีคุณภาพ

บทสรุปที่คิดว่าได้จากเรื่องนี้คือ ผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมมา หน้าพลาสติกทั้งหน้า ยังไม่น่ากลัวเท่ากับผู้หญิงที่ใส่หน้ากากเข้าหาเราอยู่ตลอดเวลา ตามที่ โดคยองซอกบอกให้ คังมีแร ว่าควรจะไปทำศัลยกรรมความคิดก่อนที่จะไปทำศัลยกรรมหน้าตา หน้าตาจะดีแค่ไหนแต่ถ้าความคิดไม่ดี  มันก็จบสินะ พระเอกได้กล่าวไว้ 5555+ 

Image Source :www.koreandrama.org

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Splash Splash Love



เป็นมินิซีรีย์อีกเรื่อง มีความยาวแค่ 2 ตอน ที่อยากจะแนะนำให้ได้ดูกัน เล่าถึงนักเรียนมัธยมปลายที่มีชีวิตที่แสนธรรมดา อยู่ๆได้ย้อนอดีตหลงเข้าไปอยู่ในยุคสมัยโซซอน ไปเจอกับพระมหากษัตริย์ ผู้ที่ต้องการจะพัฒนาประเทศให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ผู้ที่เชื่อทางวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ และคิดว่าเด็กนักเรียนคนที่มาเยือน จะสามารถช่วยโซซอนได้


จางดันบี  (Kim Seul Gi) นักเรียนมัธยมปลายที่แสนธรรมดา ที่คิดว่าตัวเองเกิดมาไร้ประโยชน์ ที่คนรอบข้างบอกเสมอว่าเธอโง่ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ มีความคิดว่าอยากจะหายตัวไป ในวันที่ต้องไปสอบแอดมิดชั่น และก็เหมือนว่าฝน ฟ้า จะเป็นใจ เธอได้หลุดเข้าไปสมัยโซซอน ในตอนที่ฝนตกระหว่างทางที่จะไปสอบพอดี ซึ่งในขณะที่โซลฝนตก แต่ในสถานที่เธอไปโผล่ กับตรงกันข้าม ที่นั้นแห้งแล้ง ประชาชนกำลังอดตาย ในวังกำลังทำพิธีขอฝนนำโดยกษัตริย์ ในยุคนั้น ทุกคนแปลกใจที่อยู่ๆ มีคนแปลกหน้าโผล่เข้ามา ด้วยเสื้อผ้าที่ไม่คุ้นตา จางดันบี แก้ต่างว่าเธอ คือเด็กที่สรรค์ส่งมาช่วยโซซอน เพื่อเอาตัวรอด


กษัตริย์ ลีโด (Yoon Doo Joon) กษัตริย์ที่ปกครองโซซอน ในขณะนั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ถูกขัดขวางโดยขุนนาง ที่อยากให้เขาเป็นแค่กษัตริย์หุ่นเชิด ต้องการจะพัฒนาประเทศด้วยการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข คณิตศาสตร์ การคำนวณ อยากให้ประชาชนเลิกงมงาย เมื่อได้เจอกับจางดันบี เป็นคนแรกที่กล่าวว่าเธอเป็นคนที่มีประโยชน์ โดยมีข้อแม้ว่าเธอต้องเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้กับตัวเอง และจนกว่าฝนจะตกอีกครั้ง จางดันบีจึงจะสามารถจากไปจากอาณาจักรนี้ได้ 

เป็นซีรีย์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ แฟนตาซี นอกจากให้ความสนุกครบรสแล้ว ยังกล่าวได้ว่าเป็นซีรีย์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยของพระเจ้าเซจงได้ดีทีเดียว พระเจ้าเซจง คือกษัตริย์ผู้ที่ได้ถือว่าทำคุณงามความดีให้กับโซซอนไว้มากมาย  เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรือง  ซึ่งเรื่องที่ทุกคนทราบดี คือเป็นผู้คิดค้นตัวอักษรเกาหลีขึ้นมา ปัจจุบันรูปของพระองค์ได้อยู่ในธนบัตรใบ 10,000 วอน ของเกาหลี คือดูตอนแรกเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอได้ดูตอนจบ มันคือประวัติศาสตร์ดีๆ ที่แฝงอยู่ในซีรีย์นี่เอง


สำหรับความประทับในซีรีย์เรื่องนี้ คงจะเป็นเรื่องของจางดันบี ที่ในตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า ทั้งที่จริงเธอเป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง เห็นได้จากสิ่งที่เธอทำในตอนอยู่ในโซซอน หรืออาจจะสรุปได้ว่า มันไม่มีใครที่เป็นคนไร้ค่าได้ 100% ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง แต่อยู่ที่ว่าในตอนนั้น เราได้อยู่ถูกที่ ถูกเวลาหรือเปล่า ยังไม่สาย ที่เราจะค้นหาคุณค่าของตัวเอง ค้นหาคนที่มองเห็นคุณค่าของคุณค่ะ 

Image Source :www.koreandrama.org

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Mr. Sunshine



คุ้มค่าการรอคอย กับผลงานเรื่องล่าสุดของนักเขียนบทคิมอึนซุก และผู้กำกับอีอึงบก ทีมผู้สร้างซีรีย์ยอดฮิตอย่าง  Descendants of the Sun และ Goblin  เป็นเรื่องที่ออกอากาศ ได้แค่ 3 สัปดาห์ ก็ขึ้นแท่นติดลำดับซีรีย์ Top 10 ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิ้ล  และจบลงด้วยเรตติ้งในตอนสุดท้าย ที่ 18.129% ติดอันดับที่ 2 เป็นรองแค่ Reply 1988  ขอปรบมือดังๆ ให้กับซีรีย์เรื่องนี้ค่ะ 
       
อาจจะกล่าวได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้ เป็นซีรีย์เรื่องแรกในรอบปีนี้ ที่ได้ความนิยมจากคนเกาหลีก็ว่าได้ ส่วนตัวแค่เพียง Ep.แรก ก็ติดงอมแงม ทั้งเนื้อเรื่อง ภาพ  OST.  นักแสดง ทุกอย่างดีงาม ดึงดูดให้น่าติดตาม แทบจะรอ On Air อาทิตย์ต่ออาทิตย์ไม่ได้ เป็นซีรีย์แนวพีเรียด ในยุคล่าอาณานิคมของเกาหลี กล่าวถึง ชเวยูจีน ที่หลบหนีจากความเป็นทาสไปเติบโตที่อเมริกา 30 ปีผ่านไป ได้กลับมาที่บ้านเกิด โซซอน ในฐานะรักษาการกงสุล สถานทูตอเมริกา


ชเวยูจีน (รับบทโดย Lee Byung Hun) นายทหารสัญชาติอเมริกา ที่มีหน้าตาคล้ายคนโซซอน ได้รับมอบหมายจากทางอเมริกาให้มาทำหน้าที่รักษาการกงสุล สถานทูตอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเกิดว่าตัวเขาทำอะไรผิดพลาดไป ทางอเมริกาจะได้มีข้ออ้างว่าเขาไม่ใช่อเมริกาที่แท้จริง จึงไม่ค่อยอยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่ ที่สำคัญมีความโกรธแค้นต่อโซซอน เป็นทุนเดิม ว่าเป็นประเทศที่ทอดทิ้งเขาไปในตอนเด็ก แม้แต่ตอนสุดท้ายเหตุผลลึกๆเขาก็ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ แต่เป็นการทำเพื่อผู้หญิงที่เขารักคนเดียวเท่านั้น


โกแอชิน (รับบทโดย Kim Tae Ri ) คุณหนูในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์  เบื้องหลังเป็นสมาชิกของขบวนการกู้ชาติ มีปู่เป็นพระอาจารย์ของพระราชา เก่ง ฉลาด สนใจเรื่องการเมืองตั้งแต่เด็กๆ  พ่อกับแม่โดนฆ่าตายหลังจากที่คลอดได้เพียงแค่วันเดียว ซึ่งดาราที่มาเล่นรับเชิญในบทพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคู่ของ จ่าซอ กับ ร้อยโทมยองจู จาก Descendants of the Sun นั้นเอง เลือกประเทศชาติก่อนสิ่งอื่นใด แม้ต้องเสียผู้ชายที่รักไปก็ตาม


กูดงแม (รับบทโดย Yoo Yun Suk) ชาวโซซอน ที่กลายเป็น ยากูซ่า รับใช้ขุนนางที่ประเทศญี่ปุ่น มีความเกลียดซังโซซอน เย็นชา ไร้ความรู้สึก เลือดเย็น  หลงรักคุณหนูโกแอชิน แต่แสดงความเลวร้าย ป่าเถื่อน ออกมาตลอด เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆ กับคนที่รัก ประมาณว่าใช้ความเลว เพื่อดึงดูดความสนใจ ทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องโกแอซิน แม้ตัวเองจะต้องโดนตามล่าจากแกงค์ยากูซ่า ในภายหลัง เป็นซีรีย์เรื่องแรกที่เห็น Yoo Yun Suk แสดงในบทแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าผ่าน ให้นายเต็มร้อยไปเลย


คิมฮีซอง (รับบทโดย Byun Yo Han) คุณชายในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ หลานชายคนเดียวในตระกูล ที่ไม่ยอมกลับมาที่โซซอน จนกระทั่งปู่ตาย เขาจึงกลับมา ไม่มีงานมีงานทำ ใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วย เหล้า การพนัน ผู้หญิง ต้องเก็บซ่อนความละอายใจในการกระทำของปู่ เนื่องจากปู่เป็นขุนนางที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน รวมถึงเป็นสาเหตุให้พ่อกับแม่ของชเวยูจิน ต้องตาย เป็นคู่หมั้นของคุณหนูโกแอชิน  เป็นผู้ชายอีกคนที่หลงรักนางเอก(สวยตรงไหน) มีวิธีการปกป้องนางเอกที่ไม่เหมือนคนอื่น แต่สุดท้ายต้องยอมถอนหมั้น เมื่อรู้ว่าผู้ชายที่แอชินมีใจให้คือชเวยูจีน


คุโดะ ฮีนะ (รับบทโดย Kim Min Jung ) ม่ายสาวพราวเสน่ห์สัญชาติญี่ปุ่น เจ้าของโรงแรมกลอรี่ ที่มาเปิดในโซซอน ที่แท้จริงแล้วเป็นชาวโซซอนแต่กำเนิด แต่ถูกพ่อที่เป็นคนขายชาติ ขายให้กับสามีชาวญี่ปุ่น เพื่อไต่เต้าให้ตัวเองมีเส้นสายในญี่ปุ่น  รวมถึงการฆ่าพ่อแม่ของโกแอชิน  ฮีนะใช้ชีวิตอยู่กับการเกลียดชังพ่อ และตามหาแม่ที่หายตัวไป รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในโซซอน มีกูดงแม เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่คอยอยู่ข้างๆ และโรงแรมกลอรี่นี่เอง ที่เป็นจุดศูนย์กลางให้พวกเขาเหล่านี้มาเจอกัน


นอกจากตัวละครที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ยังมีอีกหลายบทมากที่ไม่ได้กล่าวถึง  และถึงจะมีตัวละครเยอะ แต่ทีมงานก็ไม่เคยปล่อยทิ้งไปเฉยๆ ตัวละครแต่ล่ะตัวล้วนมีมิติ มีความสำคัญ กับบทของเรื่อง ที่มีมากถึง 24Ep.รับรองว่าจะได้เต็มอิ่มกับซีรีย์เรื่องนี้  และถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่การดำเนินเรื่องไม่ได้ทำให้คนดูสับสนแต่อย่างใด แถมด้วยมุขขำๆ แบบดิบๆ ที่สอดแทรกมาตลอดเรื่อง


สำหรับฉากที่ชอบน่าจะเป็นฉากที่เวลาสามหนุ่ม ต้องมาเจอกัน  ชายหนุ่มที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน มองกันและกันว่าเป็นศัตรูหัวใจ เกลียดขี้หน้ากัน คนหนึ่งสัญชาติอเมริกาพกปืนที่พร้อมจะยิง คนหนึ่งสัญชาติญี่ปุ่นมือถือดาบที่พร้อมจะฟัน อีกคนชาวโซซอนที่มีเพียงตระกูลหนุนหลัง ซึ่งทุกคนล้วนไม่อยากกลับมาที่นี่ แต่ต้องมานั่งกินเหล้าด้วยกันในโซซอน ประเทศที่กำลังสั่นคลอน  ประเทศที่ชาติมหาอำนาจกำลังหมายปอง....หากคุณเป็นแฟนคลับกัปตันยูชีจิน จาก Descendants of the Sun  กัปตันยูจีน ในเรื่องนี้รับรองว่าสนุกไม่แพ้กันค่ะ