วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Man to Man



เป็นซีรีย์แนวสายลับ แอคชั่น โรแมนติก คอมเมดี้ ครบรส เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย  สามารถดูได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง  หากใครที่อยากจะดูซีรีย์แบบไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูเพื่อความบันเทิง  แนะนำเรื่องนี้เป็นตัวเลือกอีกเรื่องค่ะ


เป็นเรื่องราวของสายลับ Ghost  มีนามว่า K (รับบทโดย Park Hae Jin) สายลับที่ไม่มีตัวตน แฝงตัวใช้ชีวิตด้วยการเป็นคนอื่นเพื่อทำภารกิจตลอดเวลา K เป็นสายลับหนุ่มที่หน้าตาดี มีเสน่ห์มาก ซึ่งการปฏิบัติภารกิจแฝงตัวแต่ละครั้งมักมีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ดังนั้นนอกจากภารกิจที่ต้องทำ สิ่งหนึ่งที่ K จะต้องเตรียมต่อมา คือการหาวิธีจบความสัมพันธ์เมื่อภารกิจจบสิ้นลง การตายและหายตัวไปเท่านั้นที่ K คิดว่า เป็นการจบความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด


ยออุนกวาง (รับบทโดย  Park Sung Woong)  ซุปตาร์ชื่อดัง ที่มีปมหลังเรื่องของความรัก ทำตัวเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าทีมงานของตัวเอง ไม่ชอบขี้หน้า คิมซอลอู (K แฝงตัวมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว) แต่แรกพบ ซึ่งความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไป เมื่อคิมซอลอูได้ช่วยชีวิตเขาไว้ จากอุบัติเหตุในกองถ่าย ทำให้คิมซอลอูได้กลายมาเป็นน้องรัก ที่ทำอะไรก็จะดูถูกใจ ยออุนกวางไปซะหมด


ชาโดฮา (รับบทโดย Kim Min Jung) ผู้จัดการส่วนตัวของยออุนกวาง เบื้องหลังคือแฟนคลับที่หลงรักยออุนกวาง ซึ่งทุกคนในทีมงานต่างทราบดีในความจริงข้อนี้ และยออุนกวางก็รักชาโดฮาเหมือนน้องสาว เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน นางเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของ K ที่ต้องอปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง

ความสนุกของเรื่องนี้ อยู่ที่การแฝงตัวของ K เพื่อมาทำภารกิจแล้วต้องมาเจอกับยออุนกวาง ซุปตาร์ที่ขี้เวอร์ หลงตัวเอง เอาแต่ใจ และชาโดฮา หญิงสาวผู้อ่อนต่อความรัก ผู้ที่ทำให้หัวใจของ K เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญ Park Kae Jin นายเล่นเรื่องนี้ได้หล่อมาก

Image Source :www.koreandrama.org

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Nothing to Lose



ซีรีย์แนวกฎหมายที่ออกออากาศทางช่อง SBS ไปตั้งแต่ ปลายปี 2017 จำได้ว่าเป็นช่วงเดียวกับที่บินไปเที่ยวที่เกาหลีอยู่ครึ่งเดือน เลยมีโอกาสได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ที่นั่น เข้าใจบางไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็พยายามดูเพราะชอบพระเอก Yun Woo Jin มาก แต่ก็น่าแปลกที่พอกลับมาก็ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อีกเลย เพิ่งมีโอกาสได้มาดูเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ครบปีพอดี ดูไปก็คิดถึงเกาหลีไป นี่มันบรรยากาศเดียวกันเลย ภาพจำตอนที่อยู่ที่นั่นผุดขึ้นมาทันที 


ผู้พิพากษาชาอึยฮยอน (รับบทโย Yun Woo Jin) ผู้พิพากษาหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรง โปรไฟล์ดี ได้เป็นผู้พิพากษาตั้งแต่อายุยังน้อย หล่อ เท่ ฉลาดเป็นกรด ตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม เป็นเพื่อนสนิทกับอัยการโดฮันจุน มาตั้งแต่เด็ก แต่พอได้มาเป็นผู้พิพากษา กับทำตัวเหินห่างกับโดฮันจุน เพราะไม่อยากให้พ่อ ชาจองโด ที่ยังมีใจให้กับแฟนเก่าอาจารย์ยู มยองฮี ผู้ซึ่งเป็นแม่ของโดฮันจุน สนิทกันอีกต่อไป จึงเว้นระยะห่างระหว่างทั้งสองครอบครัวไว้ มีใจให้กับผู้พิพากษาลีจองจู แต่เมื่อรู้ว่าเพื่อนมีใจให้ผู้หญิงคนเดียวกัน จึงไม่เคยเผยความรู้สึกนั้นออกมา Yun Woo Jin เล่นเรื่องนี้ได้ดีมากๆ ไม่ค่อยอยากจะอวยเท่าไหร่ เพราะมีความชอบเป็นทุนเดิม แต่ถ้าเล่นดี เราควรต้องยอมจำนน ถือเป็นนักแสดงอีกคนที่ไม่ว่าจะรับบทไหน เขาก็เอาอยู่จริงๆ


อัยการโดฮันจุน (รับบทโดย Dong Ha) อัยการหนุ่ม ผู้ซึ่งมีแม่ที่เคยเป็นผู้พิพากษา และมีพ่อเป็นถึง ส.ส โดจินมยอง  ที่กำลังลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นเพื่อนสนิทของผู้พิพากษาชาอึยฮยอน ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเว้นระยะห่างสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่เคยโกรธเพื่อน หรือหยุดความเป็นเพื่อนนั้นไว้ แต่กลับการตอแยเข้าไปอยู่ใกล้ๆเพื่อนเสมอ เพราะเชื่อว่าที่เพื่อนทำแบบนั้นเพราะมีเหตุผลที่ดี เป็นรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือผู้พิพากษาลีจองจู มาตั้งแต่เด็ก แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองมีใจให้ลีจองจู แต่ก็ไม่เคยฝืนใจลีจองจูให้มารับรัก ในบทเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้ดีเวอร์ หน้าตาออกแนวร้ายๆ  แต่ในทุกอารมณ์ ทั้งในฐานะอัยการของประเทศ ในฐานะรุ่นพี่ที่หลงรักนางเอก ในฐานะเพื่อนที่เข้าใจเพื่อน ในฐานะลูกที่ยอมรับในตัวของพ่อแม่  เขาแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยม ว่า Yun Woo Jin เล่นเรื่องนี้ได้ดี เท่ และหล่อมากแล้ว แต่พอมาเจออัยการโดฮันจุน เชื่อว่าหลายคนที่ดูมีหลงรักบทพระรองคนนี้อย่างแน่นอน Dong Ha ส่วนตัวแล้วไม่รู้จักนักแสดงคนนี้มาก่อน ทั้งที่เขาก็เล่นซีรีย์มาเยอะ แสดงว่าดวงเราอาจจะไม่ค่อยจะสมพงศ์กัน  แต่ยังไงก็ช่าง คิดว่าจากเรื่องนี้จะได้เกิดอย่างแน่นอน รอวันที่จะได้ดูเขารับบทพระเอกอย่างเต็มตัว


ผู้พิพากษาลีจองจู (รับบทโดย Park Eun Bin) ผู้พิพากษาหญิงที่เริ่มต้นเรื่องจากการอาละวาดในศาล ในวันที่ตัวเองพิจารณาคดี จนเป็นหลุมดำของผู้พิพากษาในศาล เปลี่ยนนามสกุลเพื่อตัดขาดจากพี่ชายที่เป็นผู้ต้องหาในคดีขมขืนและฆ่าคนตาย นับถืออาจารย์ยู มยองฮี แม่ของรุ่นพี่โดฮันจุนที่อดีตเคยเป็นผู้พิพากษา ที่ให้การสนับสนุนเธอในให้เป็นผู้พิพากษาที่ดีและประสบความสำเร็จ ทุกอย่างดูเหมือนจะดี จนกระทั่งวันที่เธอได้เจอกับพี่ชายที่เป็นนักโทษติดคุกในรอบ 10 ปี ในขณะที่พิจารณาคดี  พี่ชายของเธอได้ประกาศในศาลว่า เขาไม่ได้เป็นคนร้ายตัวจริง แต่ที่ต้องยอมรับว่าเป็นคนทำเพราะได้รับข้อตกลงที่ดี จากคนร้ายตัวจริง และในขณะนี้คนร้ายตัวจริงก็ได้นั่งอยู่ในศาลด้วย ซึ่งขณะที่พูดพี่ชายของเธอหันมองไปทางผู้พิพากษาชาอึยฮยอนและอัยการโดฮันจุน ที่นั่งอยู่ติดกันในห้องพิจารณาคดี

ถ้าใครที่ชื่นชอบซีรีย์แนวนี้ ไม่ควรพลาดกับเรื่องนี้ ที่ชี้ให้เห็นการทำงานของคณะผู้พิพากษา เรื่องนี้เน้นในส่วนการทำงานของผู้พิพากษาจริงๆ ไม่มีส่วนอื่นมาเกี่ยวข้องเลย นี่คือความแตกต่างระหว่างซีรีย์แนวกฎหมายทั่วไป รับรองว่าไม่ซ้ำกับเนื้อเรื่องอื่นในแนวนี้แน่นอน นอกจากนั้นยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวแฝงมาด้วย  บทพระนางแทบจะไม่มี เพราะทั้งคู่เป็นผู้พิพากษาหรือเปล่าไม่แน่ใจ 5555+ แต่ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษน่าจะเป็นสายสัมพันธ์ของเพื่อนระหว่างชาอีฮยอนและโดฮันจุน ที่มีให้กันมาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ความเป็นเพื่อนก็ไม่เคยห่างหายไปเลย แนะนำซีรีย์ดีๆ ที่มีคุณภาพอีกเรื่องค่ะ

Image Source :www.koreandrama.org

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

My ID is Gangnum Beauty




"นางงามคังนัม" คือที่มาของซีรีย์เรื่องนี้ เนื้อเรื่องที่ออกแนวเสียดสี ประชดประชันสภาพสังคมเกาหลีในปัจจุบัน ที่ทุกคนต่างยอมรับว่า หน้าตาดีมีชัยไปมากกว่าครึ่ง ทำให้สถาบันความงามของเกาหลี โผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ดอยู่ทั่วทุกมุมถนน แต่ที่มีเยอะที่สุด คงเป็นที่ย่านคังนัม การทำศัลยกรรมในเมืองนี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะปกติ จนมีคำกล่าวที่ว่า เมื่อลูกสาวเกิดมา พ่อแม่นอกจากจะเตรียมค่าเลี้ยงดูแล้ว จะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำศัลยกรรม เพิ่มเติมมาด้วย



คังมีแร (Im Soo Hyang) ผู้หญิงที่มีบาดแผลทางใจมาตั้งแต่เด็ก ด้วยหน้าตาที่ดูไม่ได้ เลยทำให้เธอไม่เป็นที่ต้องการในสังคม ถึงแม้จะเป็นเด็กที่เรียนเก่งก็ตาม จนกระทั่งเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยมีแม่เป็นผู้สนับสนุนหลัก และปิดบังเรื่องนี้กับพ่อ เนื่องจากพ่อของเธอไม่เห็นด้วย เพราะคิดอยู่เสมอว่าลูกสาว สวยที่สุด น่ารักที่สุด สำหรับคนเป็นพ่อ มีความใฝ่ฝันจะเป็นคนทำน้ำหอม จึงเลือกเรียนเอกเคมี




โดคยองซอก (Cha Eun Woo)ผู้ชายที่หน้าตาดีมาตั้งแต่กำเนิด หล่อตั้งแต่ DNA มาเลย (คือบทในเรื่องต้องหล่อมาก เท่ห์มาก) ฉลาด หยิ่ง ทันคน ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยชอบยุ่งกับเรื่องคนอื่น ไม่สนใจคนรอบข้างไม่เลือกมองคนที่หน้าตาหรือไม่ค่อยชอบคนสวยเพราะมีปมในใจเรื่องแม่มาตั้งแต่เด็กเข้าใจว่าคนสวยทุกคน จะเป็นเหมือนกับแม่ ที่ทิ้งครอบครัวไป เลือกเรียนเอกเคมี เพราะเป็นสิ่งที่พ่อไม่อยากให้เรียน

ซีรีย์ดำเนินไปเรื่อยๆไม่ค่อยหวือหวาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นฉากดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหลายๆตัว และ เนื่องจากบทของคังมีแร เป็นบทของผู้หญิงใสๆ ที่ไม่ทันโลก ที่ผ่านมาเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้คนดูหลายๆคนเกิดความรำคาญในคาแรคเตอร์ของคังมีแรส่วนบทพระเอกไม่ต้องพูดถึง เพราะมีรางวัล#Korea Drama Awards 2018 นักแสดงชายหน้าใหม่ จากเรื่องนี้เป็นการการันตีคุณภาพ

บทสรุปที่คิดว่าได้จากเรื่องนี้คือ ผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมมา หน้าพลาสติกทั้งหน้า ยังไม่น่ากลัวเท่ากับผู้หญิงที่ใส่หน้ากากเข้าหาเราอยู่ตลอดเวลา ตามที่ โดคยองซอกบอกให้ คังมีแร ว่าควรจะไปทำศัลยกรรมความคิดก่อนที่จะไปทำศัลยกรรมหน้าตา หน้าตาจะดีแค่ไหนแต่ถ้าความคิดไม่ดี  มันก็จบสินะ พระเอกได้กล่าวไว้ 5555+ 

Image Source :www.koreandrama.org

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Splash Splash Love



เป็นมินิซีรีย์อีกเรื่อง มีความยาวแค่ 2 ตอน ที่อยากจะแนะนำให้ได้ดูกัน เล่าถึงนักเรียนมัธยมปลายที่มีชีวิตที่แสนธรรมดา อยู่ๆได้ย้อนอดีตหลงเข้าไปอยู่ในยุคสมัยโซซอน ไปเจอกับพระมหากษัตริย์ ผู้ที่ต้องการจะพัฒนาประเทศให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ผู้ที่เชื่อทางวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ และคิดว่าเด็กนักเรียนคนที่มาเยือน จะสามารถช่วยโซซอนได้


จางดันบี  (Kim Seul Gi) นักเรียนมัธยมปลายที่แสนธรรมดา ที่คิดว่าตัวเองเกิดมาไร้ประโยชน์ ที่คนรอบข้างบอกเสมอว่าเธอโง่ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ มีความคิดว่าอยากจะหายตัวไป ในวันที่ต้องไปสอบแอดมิดชั่น และก็เหมือนว่าฝน ฟ้า จะเป็นใจ เธอได้หลุดเข้าไปสมัยโซซอน ในตอนที่ฝนตกระหว่างทางที่จะไปสอบพอดี ซึ่งในขณะที่โซลฝนตก แต่ในสถานที่เธอไปโผล่ กับตรงกันข้าม ที่นั้นแห้งแล้ง ประชาชนกำลังอดตาย ในวังกำลังทำพิธีขอฝนนำโดยกษัตริย์ ในยุคนั้น ทุกคนแปลกใจที่อยู่ๆ มีคนแปลกหน้าโผล่เข้ามา ด้วยเสื้อผ้าที่ไม่คุ้นตา จางดันบี แก้ต่างว่าเธอ คือเด็กที่สรรค์ส่งมาช่วยโซซอน เพื่อเอาตัวรอด


กษัตริย์ ลีโด (Yoon Doo Joon) กษัตริย์ที่ปกครองโซซอน ในขณะนั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ถูกขัดขวางโดยขุนนาง ที่อยากให้เขาเป็นแค่กษัตริย์หุ่นเชิด ต้องการจะพัฒนาประเทศด้วยการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข คณิตศาสตร์ การคำนวณ อยากให้ประชาชนเลิกงมงาย เมื่อได้เจอกับจางดันบี เป็นคนแรกที่กล่าวว่าเธอเป็นคนที่มีประโยชน์ โดยมีข้อแม้ว่าเธอต้องเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้กับตัวเอง และจนกว่าฝนจะตกอีกครั้ง จางดันบีจึงจะสามารถจากไปจากอาณาจักรนี้ได้ 

เป็นซีรีย์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ แฟนตาซี นอกจากให้ความสนุกครบรสแล้ว ยังกล่าวได้ว่าเป็นซีรีย์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยของพระเจ้าเซจงได้ดีทีเดียว พระเจ้าเซจง คือกษัตริย์ผู้ที่ได้ถือว่าทำคุณงามความดีให้กับโซซอนไว้มากมาย  เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรือง  ซึ่งเรื่องที่ทุกคนทราบดี คือเป็นผู้คิดค้นตัวอักษรเกาหลีขึ้นมา ปัจจุบันรูปของพระองค์ได้อยู่ในธนบัตรใบ 10,000 วอน ของเกาหลี คือดูตอนแรกเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอได้ดูตอนจบ มันคือประวัติศาสตร์ดีๆ ที่แฝงอยู่ในซีรีย์นี่เอง


สำหรับความประทับในซีรีย์เรื่องนี้ คงจะเป็นเรื่องของจางดันบี ที่ในตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า ทั้งที่จริงเธอเป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง เห็นได้จากสิ่งที่เธอทำในตอนอยู่ในโซซอน หรืออาจจะสรุปได้ว่า มันไม่มีใครที่เป็นคนไร้ค่าได้ 100% ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง แต่อยู่ที่ว่าในตอนนั้น เราได้อยู่ถูกที่ ถูกเวลาหรือเปล่า ยังไม่สาย ที่เราจะค้นหาคุณค่าของตัวเอง ค้นหาคนที่มองเห็นคุณค่าของคุณค่ะ 

Image Source :www.koreandrama.org

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Mr. Sunshine



คุ้มค่าการรอคอย กับผลงานเรื่องล่าสุดของนักเขียนบทคิมอึนซุก และผู้กำกับอีอึงบก ทีมผู้สร้างซีรีย์ยอดฮิตอย่าง  Descendants of the Sun และ Goblin  เป็นเรื่องที่ออกอากาศ ได้แค่ 3 สัปดาห์ ก็ขึ้นแท่นติดลำดับซีรีย์ Top 10 ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิ้ล  และจบลงด้วยเรตติ้งในตอนสุดท้าย ที่ 18.129% ติดอันดับที่ 2 เป็นรองแค่ Reply 1988  ขอปรบมือดังๆ ให้กับซีรีย์เรื่องนี้ค่ะ 
       
อาจจะกล่าวได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้ เป็นซีรีย์เรื่องแรกในรอบปีนี้ ที่ได้ความนิยมจากคนเกาหลีก็ว่าได้ ส่วนตัวแค่เพียง Ep.แรก ก็ติดงอมแงม ทั้งเนื้อเรื่อง ภาพ  OST.  นักแสดง ทุกอย่างดีงาม ดึงดูดให้น่าติดตาม แทบจะรอ On Air อาทิตย์ต่ออาทิตย์ไม่ได้ เป็นซีรีย์แนวพีเรียด ในยุคล่าอาณานิคมของเกาหลี กล่าวถึง ชเวยูจีน ที่หลบหนีจากความเป็นทาสไปเติบโตที่อเมริกา 30 ปีผ่านไป ได้กลับมาที่บ้านเกิด โซซอน ในฐานะรักษาการกงสุล สถานทูตอเมริกา


ชเวยูจีน (รับบทโดย Lee Byung Hun) นายทหารสัญชาติอเมริกา ที่มีหน้าตาคล้ายคนโซซอน ได้รับมอบหมายจากทางอเมริกาให้มาทำหน้าที่รักษาการกงสุล สถานทูตอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเกิดว่าตัวเขาทำอะไรผิดพลาดไป ทางอเมริกาจะได้มีข้ออ้างว่าเขาไม่ใช่อเมริกาที่แท้จริง จึงไม่ค่อยอยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่ ที่สำคัญมีความโกรธแค้นต่อโซซอน เป็นทุนเดิม ว่าเป็นประเทศที่ทอดทิ้งเขาไปในตอนเด็ก แม้แต่ตอนสุดท้ายเหตุผลลึกๆเขาก็ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ แต่เป็นการทำเพื่อผู้หญิงที่เขารักคนเดียวเท่านั้น


โกแอชิน (รับบทโดย Kim Tae Ri ) คุณหนูในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์  เบื้องหลังเป็นสมาชิกของขบวนการกู้ชาติ มีปู่เป็นพระอาจารย์ของพระราชา เก่ง ฉลาด สนใจเรื่องการเมืองตั้งแต่เด็กๆ  พ่อกับแม่โดนฆ่าตายหลังจากที่คลอดได้เพียงแค่วันเดียว ซึ่งดาราที่มาเล่นรับเชิญในบทพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคู่ของ จ่าซอ กับ ร้อยโทมยองจู จาก Descendants of the Sun นั้นเอง เลือกประเทศชาติก่อนสิ่งอื่นใด แม้ต้องเสียผู้ชายที่รักไปก็ตาม


กูดงแม (รับบทโดย Yoo Yun Suk) ชาวโซซอน ที่กลายเป็น ยากูซ่า รับใช้ขุนนางที่ประเทศญี่ปุ่น มีความเกลียดซังโซซอน เย็นชา ไร้ความรู้สึก เลือดเย็น  หลงรักคุณหนูโกแอชิน แต่แสดงความเลวร้าย ป่าเถื่อน ออกมาตลอด เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆ กับคนที่รัก ประมาณว่าใช้ความเลว เพื่อดึงดูดความสนใจ ทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องโกแอซิน แม้ตัวเองจะต้องโดนตามล่าจากแกงค์ยากูซ่า ในภายหลัง เป็นซีรีย์เรื่องแรกที่เห็น Yoo Yun Suk แสดงในบทแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าผ่าน ให้นายเต็มร้อยไปเลย


คิมฮีซอง (รับบทโดย Byun Yo Han) คุณชายในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ หลานชายคนเดียวในตระกูล ที่ไม่ยอมกลับมาที่โซซอน จนกระทั่งปู่ตาย เขาจึงกลับมา ไม่มีงานมีงานทำ ใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วย เหล้า การพนัน ผู้หญิง ต้องเก็บซ่อนความละอายใจในการกระทำของปู่ เนื่องจากปู่เป็นขุนนางที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน รวมถึงเป็นสาเหตุให้พ่อกับแม่ของชเวยูจิน ต้องตาย เป็นคู่หมั้นของคุณหนูโกแอชิน  เป็นผู้ชายอีกคนที่หลงรักนางเอก(สวยตรงไหน) มีวิธีการปกป้องนางเอกที่ไม่เหมือนคนอื่น แต่สุดท้ายต้องยอมถอนหมั้น เมื่อรู้ว่าผู้ชายที่แอชินมีใจให้คือชเวยูจีน


คุโดะ ฮีนะ (รับบทโดย Kim Min Jung ) ม่ายสาวพราวเสน่ห์สัญชาติญี่ปุ่น เจ้าของโรงแรมกลอรี่ ที่มาเปิดในโซซอน ที่แท้จริงแล้วเป็นชาวโซซอนแต่กำเนิด แต่ถูกพ่อที่เป็นคนขายชาติ ขายให้กับสามีชาวญี่ปุ่น เพื่อไต่เต้าให้ตัวเองมีเส้นสายในญี่ปุ่น  รวมถึงการฆ่าพ่อแม่ของโกแอชิน  ฮีนะใช้ชีวิตอยู่กับการเกลียดชังพ่อ และตามหาแม่ที่หายตัวไป รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในโซซอน มีกูดงแม เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่คอยอยู่ข้างๆ และโรงแรมกลอรี่นี่เอง ที่เป็นจุดศูนย์กลางให้พวกเขาเหล่านี้มาเจอกัน


นอกจากตัวละครที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ยังมีอีกหลายบทมากที่ไม่ได้กล่าวถึง  และถึงจะมีตัวละครเยอะ แต่ทีมงานก็ไม่เคยปล่อยทิ้งไปเฉยๆ ตัวละครแต่ล่ะตัวล้วนมีมิติ มีความสำคัญ กับบทของเรื่อง ที่มีมากถึง 24Ep.รับรองว่าจะได้เต็มอิ่มกับซีรีย์เรื่องนี้  และถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่การดำเนินเรื่องไม่ได้ทำให้คนดูสับสนแต่อย่างใด แถมด้วยมุขขำๆ แบบดิบๆ ที่สอดแทรกมาตลอดเรื่อง


สำหรับฉากที่ชอบน่าจะเป็นฉากที่เวลาสามหนุ่ม ต้องมาเจอกัน  ชายหนุ่มที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน มองกันและกันว่าเป็นศัตรูหัวใจ เกลียดขี้หน้ากัน คนหนึ่งสัญชาติอเมริกาพกปืนที่พร้อมจะยิง คนหนึ่งสัญชาติญี่ปุ่นมือถือดาบที่พร้อมจะฟัน อีกคนชาวโซซอนที่มีเพียงตระกูลหนุนหลัง ซึ่งทุกคนล้วนไม่อยากกลับมาที่นี่ แต่ต้องมานั่งกินเหล้าด้วยกันในโซซอน ประเทศที่กำลังสั่นคลอน  ประเทศที่ชาติมหาอำนาจกำลังหมายปอง....หากคุณเป็นแฟนคลับกัปตันยูชีจิน จาก Descendants of the Sun  กัปตันยูจีน ในเรื่องนี้รับรองว่าสนุกไม่แพ้กันค่ะ


วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Life


หลังจากดูจบต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ซีรีย์เรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีย์แนวการแพทย์ แค่ได้นำองค์กรการแพทย์มาเป็นตัวขับเคลื่อนในการดำเนินเรื่อง ไม่ได้นำเสนอในแง่ของเคสคนไข้ การรักษา แต่นำเสนอในฐานะความเป็นหมอ ความเป็นองค์กร บุคลากร ในโรงพยาบาล ที่ต้องต่อสู้เพื่อให้โรงพยาบาลเป็นที่รักษาคนไข้ ไม่ใช่แหล่งแสวงหาผลกำไรจากนักธุรกิจ


เยจินอู (รับบทโดย Lee Dong Wook ) หมอแผนกฉุกเฉิน ที่ดูผ่านๆ เหมือนไม่ค่อยจะสนใจเรื่องของอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องการเมืองในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฮันกุก แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นหลังจาก ผอ.โรงพยาบาลเสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ที่หมอเย ให้ความเคารพเหมือนพ่อ ประกอบกับมีประธานโรงพยาบาลคนใหม่เข้ามาหาบริหาร  และมีนโยบายที่จะย้ายแผนกฉุกเฉินให้ไปประจำอยู่ที่ต่างจังหวัด เนื่องจากแผนกฉุกเฉินเป็น 1 ใน 3 แผนกที่ขาดทุนมากที่สุดในโรงพยาบาล เขาจึงคิดขึ้นได้ว่าควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองและเพื่อนร่วมงาน   หลังจากเรื่อง Goblin ก็ไม่ได้ดูซีรีย์ที่ Oppa เล่นอีกเลย หล่อเหมือนเดิมเรื่องนี้ ออกแนวแบบเก็บกดหน่อยๆ


ประธานกูซึงฮโย (รับบทโดย Cho Seung Woo) ประธานโรงพยาบาล ที่มีบุคลิกหน้าเลือด เห็นแก่เงิน ฉลาด มองการณ์ไกล ทำทุกอย่างเพื่อให้งานออกมาได้ดี เป็นบุคคลที่ทั้งโรงพยาบาลเกลียดชังขี้หน้า เพราะมาอยู่ได้ไม่นาน ก็อยากจะปรับปรุงนั้น นู้น นี่ ทำให้บุคลกรในโรงพยาบาลรับกันไม่ค่อยได้ จนมีคำว่า ท่านประธานเป็นฝันร้ายสำหรับทุกคน


จูกวางมูน (รับบทโดย Yoo Jae Myung ) อาจารย์หมอเพียงคนเดียวในโรงพยาบาลแห่งนี้ ที่ไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยฮันกุก จึงไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันสักเท่าไหร่ เป็นคนซื่อตรง รักษาคนไข้ด้วยความมุ่งมั่น และเป็นเพราะเหตุผลจากข้างต้น ทำให้ไม่ค่อยสนใจในตำแหน่งการเลื่อนขั้นสักเท่าไหร่ แต่เลือกที่จะทุ่มเทไปที่คนไข้แทน


เยซอนอู (รับบทโดย Lee Kyu Hyung ) น้องชายของเยจินอู ที่พิการทางขา มาตั้งแต่เด็ก เดินไม่ได้ แต่มีความมุ่งมั่นจนเรียนจบแพทย์ได้ เลือกเข้าทำงานราชการ ในฐานะผู้ตรวจสอบเบี้ยประกัน หลงรักหมอลีโนอึล เพื่อนของพี่ชาย ถึงแม้จะเดินไม่ได้ แต่ก็ทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ ไม่อยากเป็นภาระของใครไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะพี่ชาย ในเรื่องนี้เราจะได้ซาบซึ้งกับความรักของพี่น้องคู่นี้ มีบางฉากที่ดูแล้วน้ำตาไหล


ลีโนฮึล (รับบทโดย Won Jin Ah) หมอหญิงในโรงพยาบาลเพียงคนเดียว ที่มองว่าแท้จริงแล้วประธานกูเป็นคนดี แต่ซ่อนมันเอาไว้ พยายามเปลี่ยนมุมมองของประธานกูหลายครั้ง จนเข้าใจประธานกูผิดเพราะโดนไล่ออกจากงาน เนื่องจากประธานใหญ่เข้าใจว่าเป็นแฟนสาวของหมอเยจินอู

สิ่งที่ซีรีย์พยายามจะสื่อ คือ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฮันกุก ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับองค์กรอื่นๆ ที่มีคนหลายแบบมาอยู่ร่วมกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ก็จะมีคนหลายๆ ประเภทเกิดขึ้น คนที่นิ่งเฉย จำยอม เพราะตัวเองได้รับประโยชน์ คนที่โวยวาย เพราะตัวเองเสียผลประโยชน์ และคนที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง เมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร  ซึ่งหากจะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลง คนทั้งสามแบบนี้ต้องร่วมมือร่วมใจกันให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ดีกว่ามานั่งทะเลาะกันเอง ซีรีย์เรื่องนี้สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ที่อยู่ในแต่ล่ะตัวละครเป็นอย่างดี ไม่มีใครถูก ใครผิด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนมีเหตุผลในการใช้ชีวิตกันทั้งนั้น แนะนำให้ดูอีกเรื่องค่ะ

Image Source :www.koreandrama.org

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Dear Judge / Your Honor


ผู้พิพากษาที่เคารพรัก นอกจากชื่อเรื่องจะน่าสนใจ เนื้อเรื่องก็ไม่แพ้กัน สนุกมาก เข้มข้นตั้งแต่เปิดเรื่อง  เป็นซีรีย์แนวกฎหมาย เล่าถึง พี่น้องฝาแฝด ฮันซูโฮ และ ฮันคังโฮ (รับบทโดย Yoon Si Yoon)  ที่วิถีชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งเป็นนักเลง เข้าๆออกๆ ห้องขังเป็นว่าเล่น ชีวิตตัวเองยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอด ส่วนอีกคนเป็นถึงผู้พิพากษาที่สามารถตัดสินชะตาชีวิตของผู้อื่น 


ฮันซูโฮ แฝดผู้พี่ เรียนเก่งเป็นที่หนึ่งระดับประเทศ ทำงานเป็นผู้พิพากษา สุขุม เงียบ  ไม่ค่อยอยากจะเกี่ยวพันกับน้องชาย ไม่อยากพูดถึงครอบครัว เนื่องจากมาจากครอบครัวที่แสนธรรมดา จนกลายเป็นคนค่อนข้างที่จะเก็บตัว เผลอเอาตัวเข้าไปพัวพันกับกลุ่มอิทธิพลที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับพรรคพวก ส่งผลให้ผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย เนื่องจากการตัดสินคดีแบบรวบรัด  อยู่มาวันหนึ่งได้หายตัวไปจากห้องพัก

ฮันคังโฮ แฝดผู้น้อง ที่ดำเนินชีวิตด้วยการเป็นนักเลง เรียนไม่จบ เนื่องจากมีปมในใจ ว่าแม่ไม่รัก รักพี่มากกว่า จึงเลือกทางสายนี้เพื่อหวังให้แม่ของตัวเองไม่มีความสุข หรืออีกนัยคือทำประชดแม่และพี่ชาย เลือดร้อน ใครหยามไม่ได้ ในวันที่พี่ชายหายตัวไป เผอิญว่าเข้าไปอยู่ในห้องของพี่ชาย ผู้ช่วยศาลมาเจอ เลยลากไปตัดสินคดีที่ศาล เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้พิพากษาฮันคังโฮ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นนับแต่นั้น


ซงจีฮยอน (รับบทโดย Lee Yoo Young) นักศึกษาด้านกฎหมาย ที่เข้ามาฝึกงานกับผู้พิพากษาฮันซูโอ เป็นคนซื่อตรง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยเฉพาะจำเลยที่ตกเป็นเหยื่อของคดีต่างๆ เนื่องจากในอดีตมีพี่สาวที่ตกเป็นเหยื่อของกฎหมายเลยตั้งใจเรียนกฎหมาย เพื่อคงความเป็นธรรมในสังคม 

เมื่อผู้พิพากษาตัวปลอมเข้ามาทำงาน ท่าที พฤติกรรม คำพิพากษา ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เป็นที่กังขาของคนในศาล รวมถึงคนที่อยู่ในกลุ่มอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็น ทนาย อัยการ นักธุรกิจ ทำให้เป็นที่เพ่งเล็งตลอดเวลา แต่เนื่องจากเป็นคนไม่ยอมคน  นิสัยนักเลงอยู่แล้ว แถมมาอยู่ในมาดของผู้พิพากษาที่มีอำนาจ จึงเอาตัวรอดได้ค่อนข้างสบาย  บวกกับได้ซงจีฮยอน เด็กฝึกงาน คอยเขียนคำวินิจฉัยในการพิพากษาให้ เพราะเข้าใจว่านั้นคือการฝึกงาน และซงจีฮยอน จะประทับใจทุกครั้งเวลาที่ผู้พิพากษาตัดสินคดีความในแบบของฮันคังโฮ ที่ไม่เหมือนผู้พิพากษาคนอื่นๆ


เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กระชับ ไม่เวิ่นเว้อ ตามสไตล์ของ SBS ทำให้คนดูไม่เกิดอาการเบื่อหน่าย ที่มักจะมีอยู่ในซีรีย์บางเรื่องเพื่อต่อเวลาให้ได้ตาม Ep. ที่วางไว้ พระนางก็เล่นเข้าคู่กันได้ดี เคมีไปกันได้  ไม่มีความหวานสักเท่าไหร่ เรื่องนี้นอกจากจะได้ความรู้ทางกฎหมาย ในการพิจารณาคดีแล้ว ยังเห็นความเป็นจริงของสังคม ว่าเวลาที่ทนายและอัยการ จับมือกันในชั้นศาล อย่าว่าแต่ผู้พิพากษาที่ดูออกเลย คนอย่างเราๆ ก็ดูออกเหมือนกัน

รวมถึงเรื่องของสถาบันครอบครัว ที่มีลูกเป็นฝาแฝด ควรจะเลี้ยงดูแบบไหน เด็กแฝดจะค่อนข้างพิเศษกว่าเด็กอื่นๆ เวลาจะให้ของต้องให้เหมือนๆ กัน ถ้าไม่เช่นนั้นจะรู้สึกทันที ว่าตัวเองด้อยกว่าอีกคน และคิดไปเองว่าได้รับความรักน้อยกว่าอีกคน  ที่สำคัญควรพยายามหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบไม่ว่าในกรณีใดๆ  โดยเฉพาะในช่วงวัยที่เขากำลังเรียนรู้  ดังนั้นเพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี พ่อแม่และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักถึงความจริงในข้อนี้ให้มากๆ ค่ะ






วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Familiar Wife




แนะนำอย่างแรงสำหรับคนที่กำลังเบื่อการมีชีวิตคู่ เบื่อการมีครอบครัว มันจะดีแค่ไหน หากว่าคุณสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของคุณ ซีรีย์เล่าถึง  ชาจูฮยอก ชายหนุ่มที่ไม่เคยมีความสุขกับชีวิตหลังแต่งงาน ชายผู้ที่กำลังเบื่อทุกสิ่งอย่าง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซออูจิน ภรรยาของตัวเอง


 Part 1  ชาจูฮยอก (รับบทโดย Ji Sung)  กับการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการแผนกเงินกู้ ของธนาคาร KCU  ที่มาทำงานสายเป็นประจำ เนื่องจากมีลูกวัยเล็ก 2คน ที่ต้องช่วยกันเลี้ยงดูกับภรรยา และจากการที่มาทำงานสายทำให้เขาไม่ได้รับการโปรโมท ให้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการสักที ทั้งทีทำงานมาหลายปี ความสุขเล็กๆน้อยๆ ของเขา คือการได้แวะไปพูดคุยกับเพื่อนสนิท เล่นเกมส์ หลังจากที่ลูกหลับ  เรื่องที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับชีวิตในตอนนี้ คือ ซออูจิน (รับบทโดย Han Ji Min) ภรรยาที่ไม่เคยเข้าอกเข้าใจหัวอกของสามี เป็นเสมือนศัตรูคนสำคัญที่อยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน จุดพีค คือในวันหนึ่งเขาได้รู้ว่า มีผู้หญิงที่แสนดีอีกคนเคยหลงรักเขา เมื่อสมัยเรียน บวกกับการทำงานพลาด ที่อาจจะมีผลไม่ได้รับการเลื่อนขั้น และเมื่อกลับถึงบ้านพบกว่า เกมส์ Play ของเขาจมอยู่ในอ่างอาบน้ำ ด้วยฝีมือของภรรยา พร้อมกับการทะเลาะกัน จนทำให้เขาออกจากบ้านมา เหมือนโชคชะตา ฟ้าลิขิต สวรรค์เป็นใจ หรืออะไรก็ตามแต่ ชาจูฮยอก พบวิธีการกลับไปในอดีตได้ ซึ่งแน่นอนที่เขาตัดสินใจทิ้งเมียและลูกในปัจจุบัน เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง


Part 2   เมื่อย้อนอดีตกลับมาได้ สิ่งแรกที่ชาจูฮยอกทำ คือ การหลบเลี่ยง ไม่ไปเกี่ยวพันกับ ซออูจิน พร้อมกับสารภาพรักกับ ลีฮเยวอน (รับบทโดย Kang Han Na)  หญิงสาวที hot ที่สุดในหาลัย ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ ผ่านไป 10 ปี ชาจูฮยอก กลายเป็นชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ทั้งหน้าที่ และความรัก ได้ภรรยาใหม่สมใจอยาก เป็นลูกเขยนักธุรกิจใหญ่ จนวันหนึ่ง ได้มาพบกับ ซออูจิน  อีกครั้งในฐานะพนักงานใหม่ ที่เข้ามาทำงานในธนาคาร แว๊บแรกที่เห็น คือ ความสวย เปรียบเทียบ กับตอนเป็นภรรยาของตัวเองทันที 555 ความสามารถ ที่มีมากกว่าตอนนั้น ความสดใส ร่าเริง ต่างๆนาๆ  ที่สำคัญนางยังโสด เพราะมัวแต่ดูแลแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์  ทำให้ชาจูฮยอก เกิดความสงสาร เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อนสนิทอย่าง ยุนจองวู (รับบทโดย Jang Seung Jo)  เกิดหลงรักและขอนางเป็นแฟน เท่านั้นแระ ชาจูฮยอก ก็รู้ในทันที ว่าตัวเองรักภรรยามากแค่ไหน ภาพเก่าๆตอนเป็นแฟนกันก็ผุดขึ้นมา  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีครอบครัวใหม่แล้ว และสุดท้ายก็ต้องได้หย่ากับลีฮเยวอนอีกเช่นกัน  ทำให้เขารู้ว่า ความจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากตัวเขาเองทั้งหมด นอกจากจะทำไห้ ซออูจินเป็นทุกข์ใจ ลี ฮเยวอนก็อยู่ในสถานะเดียวกัน


Part 3 เมื่อ ชาจูฮยอก ย้อนอดีตได้อีกครั้ง คราวนี้เขาเลือกที่จะสันโดษ อยู่เป็นโสด ไม่แลตามองผู้หญิง ทั้งๆที่เพื่อนทุกคนมีครอบครัวกันหมด ที่สำคัญที่สุด คือทำอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องพบเจอกับซออูจิน เขาบอกกับทุกคนเสมอว่า อยู่คนเดียวสบายใจที่สุด เพราะไม่ต้องทำให้ใครเจ็บปวด และทั้งที่ไม่มีครอบครัว เขากลับเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน เกี่ยวกับชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดี และถึงเมื่อเขาจะหลบหลีกซออูจิน อย่างไร สุดท้ายก็กลับมาพบกันใหม่อยู่ดี แล้วจะเป็นเช่นไรต่อ ให้ดูเองแล้วกันค่ะ

ดูเสร็จ สิ่งแรกคือคิดถึงเพื่อนๆสมัยมัธยม ที่มีชีวิตแต่งงาน มีสามี มีลูก ที่นานๆ ครั้งจะเจอกัน แต่ก็รับรู้เรื่องสามี เรื่องลูก เรื่องภายในบ้านของพวกนางเป็นอย่างดี เสมือนอยู่ข้างบ้านกัน  ก็บอกพวกนางเสมอ ว่า Nobody not perfect   พยายามชั่งน้ำหนักว่า สุขหรือทุกข์มากกว่ากัน หากสุขมากกว่าก็ยอมๆ  แต่ถ้าเป็นทุกข์มากกว่าก็หย่าๆ  ซึ่งจนแล้วจนรอด  สถาบันครอบครัวของพวกนางก็ยังคงแข็งแกร่งกันอยู่ แสดงว่าคำตอบก็คงมีในใจกันมานานแล้ว  

เรื่องนี้ คงจะบอกเราเกี่ยวกับเรื่องโชคชะตา ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญทีทำให้คนเรามาพบเจอกันได้ ส่วนจะเจอกันช้าหรือเร็ว มันก็ขึ้นอยู่กับหนทางที่เราเลือกเดิน สบายใจค่ะ เพราะถ้าเรามีคู่ เดี๊ยวเขาก็คงมาเอง ไม่ต้องวิ่งตามหา อยู่สวยๆ แบบนี้ไปวันๆ พอ

Image Source : www.koreandrama.org